เบส อรพิมพ์ วีซ่าเข้าสหรัฐผ่านแล้ว DSI รับรองให้
(26 พ.ย.) หนังสือพิมพ์สยามทาวน์ ยูเอส รายงานความเคลื่อนไหวของคนไทยในสหรัฐอเมริกา รายงานว่า น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล หรือ เบส นักพูดชื่อดัง ได้รับวีซ่าเข้ามาในสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยนายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง อดีตประธานจัดงานไทยนิวเยียร์เดย์ สงกรานต์ เฟสติวัล แจ้งมายังสื่อมวลชนไทยในลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ระบุว่า สาเหตุที่วีซ่าไม่ผ่านในครั้งแรกไม่ใช่ปัญหาเรื่องเครดิต หรือ เรื่องการเมือง แต่เป็นเพราะเอกสารไม่พร้อม และไม่มีต้นสังกัด แต่เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่รัฐบาลรับรู้และสนับสนุน
กระทั่งกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงออกหนังสือรับรองให้กับ น.ส.อรพิมพ์ นำไปยื่นขอสัมภาษณ์อีกครั้ง และสถานทูตก็อนุมัติวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนกระแสข่าวด้านลบของ น.ส.อรพิมพ์ ในกรณีที่มีการพูดพาดพิงจนคนอีสานไม่พอใจนั้น เป็นประเด็นที่พัวพันมาจากการเมือง ซึ่งขณะนี้ น.ส.อรพิมพ์ได้ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกับสื่อมวลชน และเคลียร์ตัวเองไปแล้ว
ทั้งนี้ กิจกรรมทอล์กโชว์เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในลอสแอนเจลิส ของ น.ส.อรพิมพ์ ใช้ชื่อว่า "เกิดอีกสิบชาติก็ไม่เจอมหาราชที่ชื่อภูมิพล" จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม เวลา 17.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ณ หอประชุมโรงเรียนพาโนรามาไฮสกูล
จากนั้นวันที่ 5 ธันวาคม น.ส.อรพิมพ์ จะเดินทางไปยังนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เพื่อร่วมกิจกรรมกับชุมชนไทยในเมืองบอสตัน ที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ก่อนจะเดินทางมาทำพิธีจุดเทียนแสดงความอาลัย ณ จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช
วันที่ 6 ธันวาคม น.ส.อรพิมพ์ จะเดินทางมาพูดที่วัดป่าพุทธยานันทาราม ลาสเวกัส เพื่อร่วมงานปลูกต้นไม้เพื่อพ่อ เวลาประมาณ 13.00 น. และในช่วงค่ำ จะร่วมกับคนไทยในลาสเวกัส ทำพิธีจุดเทียนธรรมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่บริเวณป้ายสัญลักษณ์เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา
ซึ่ง น.ส.อรพิมพ์ มีโปรแกรมขึ้นเวทีเพื่อพูดเทิดพระเกียรติให้ประชาชนไทยในซานฟรานซิสโกฟัง ณ วัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนต์ ในวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม เวลา 11.30 น. โดยการจัดของสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ รวมทั้งยังมีโปรแกรมขึ้นเวทีในชิคาโกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์กรชุมชนในพื้นที่
