ตำรวจสภ.ช้างเผือก โต้เป็นหุ้นส่วนผับเชียงใหม่ ยันไม่รู้จัก บอล กฤษณะ

ตำรวจสภ.ช้างเผือก โต้เป็นหุ้นส่วนผับเชียงใหม่ ยันไม่รู้จัก บอล กฤษณะ

ตำรวจสภ.ช้างเผือก โต้เป็นหุ้นส่วนผับเชียงใหม่ ยันไม่รู้จัก บอล กฤษณะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(29 พ.ย.) จากกรณีที่นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งเป็นลูกชายของพลตรีวิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน ถูกกลุ่มการ์ดที่ดูแลร้านอาหารและสถานบันเทิง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทำร้ายเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.59 ที่ผ่านมา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งดั้งจมูกหัก เยื่อหูฉีก ฟันแตก 2 ซี่ กรามร้าว สมองกระทบกระเทือน และตาซ้ายมีปัญหามองไม่เห็นต้องรอผลการตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง โดยมีการพาดพิงไปถึงกลุ่มดารานักแสดงและไฮโซที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
 
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก "ปฏิรูปตำรวจ" และ สังคมออนไลน์ได้เผยแพร่และแชร์ภาพของนายตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ระบุว่าเป็นหุ้นส่วนของร้าน และเป็นผู้ที่ทำการถอดกล้องวงจรปิดออกไปจากทางร้านนั้น พ.ต.ต.สถิตชัย นิตยวัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ถูกพาดพิง ชี้แจงว่า ภาพที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2558 ที่ทำคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และไม่รู้ว่าผู้ใดที่เป็นคนถ่ายภาพไว้ กระทั่งมีการนำมาเผยแพร่ ซึ่งเบื้องต้นตรวจสอบพบว่าผู้ที่นำภาพไปเผยแพร่เป็นคนที่เคยถูกตัวเองจับกุมคดีหมิ่นประมาทเมื่อหลายปีที่แล้ว เชื่อว่าน่าจะมีความแค้นส่วนตัว ทั้งนี้ไม่ขอแก้ตัว และจะดำเนินการตามกฎหมายฐานทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง 
 
ทั้งนี้ พ.ต.ต.สถิตชัย ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับ นายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือ บอล และ นายธนิน เลิศอำรุงกุล อายุ 33 ปี เจ้าของร้านมาลิน สกาย เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด แต่เคยจับกุมนายธนิน ในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ชั้นล่างของร้าน โดยยึดกล้องวงจรปิดของร้านส่งดำเนินคดีและมีความเห็นส่งฟ้อง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกล้องวงจรปิดของร้านขณะที่นายอิศราชนุวัฒภ์ถูกทำร้าย หายไปหลังเกิดเหตุนั้น ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนนำออกไป และไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น
 
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ช่วงสายวันนี้ (29 พ.ย.59) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากในที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวน
 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook