อั๋น ภูวนาท ควงว่าที่เจ้าสาว จ๋า เปิดใจครั้งแรก ก่อนเข้าพิธีวิวาห์
หลังจากที่ประกาศข่าวดีเรื่องงานวิวาห์ จนทำเอาแฟนๆ ทั้งประเทศถึงกับเซอร์ไพรส์ ล่าสุดว่าที่คู่บ่าวสาว "ดีเจอั๋น ดร.ภูวนาท คุณผลิน" กับแฟนสาวนักธุรกิจทายาททิฟฟานี่โชว์ พัทยา "จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์" ก็ได้ควงแขนกันออกมาเปิดใจถึงเส้นทางรักตลอดระยะเวลา 9 ปี ก่อนตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์ รวมถึงเคลียร์ชัดแบบม้วนเดียวจบกับถึงกระแสข่าวเม้าท์มอยในโลกโซเชียลฯ เรื่องความ "แมน" ที่ใครหลายคนอาจจะกำลังสงสัย ? ให้เราฟังว่า...
อั๋น - "ตอนที่ข่าวออกมาว่าประกาศแต่งงานก็ตกใจเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ประกาศ แต่เราแค่ทยอยส่งการ์ดให้แขกอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเรื่องมันก็เลยกลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะหลายคนค่อนข้างเซอร์ไพรส์ แต่ถ้าหากเป็นคนใกล้ตัวหรือผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน เขาก็จะไม่ได้เซอร์ไพรส์ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเราคบกันอยู่"
จ๋า - "คือเมื่อปีที่ผ่านมาทางครอบครัวของจ๋าก็อาจจะยุ่งๆ อยู่บ้าง เนื่องจากว่าเพิ่งจะสูญเสียคุณพ่อ แต่เรื่องการแต่งงานคือเราวางแผนไว้ก่อนแล้วว่าจะแต่งช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่พอดีคุณพ่อจ๋าเสีย เราก็เลยเลื่อนให้มาเป็นช่วงเดือนมกราคมแทน"
หลายคนค่อนข้างตกใจเพราะที่ผ่านมาคนไม่เคยเห็นว่าพี่อั๋นมีแฟน ?
อั๋น - "ถ้าหากเข้าไปดูในอินสตาแกรมก็จะเห็นนะว่าพี่มีการลงรูปบ้าง แต่คนอาจจะเลือกคิดว่าเป็นเพื่อนสาวมากกว่า ไม่ได้คิดว่าเป็นแฟนอั๋น (หัวเราะ) คือเราไม่ได้ปิดว่าเป็นแฟน แต่แค่ไม่ได้คำว่าแฟนมากกว่า เวลาไปไหนมาไหนคนก็เลยคิดเอาเองว่าเป็นเพื่อน"
แต่หลายคนก็มองไปในมุมว่าพี่อั๋นอาจจะเป็นเพื่อนสาว ?
อั๋น - "พูดอะไรก็เหมือนว่าจะเป็นการแก้ตัวไปซะหมด แต่เราก็โกรธเขาไม่ได้ เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ที่สุดมันก็กลับมาที่ตัวเราเองว่าเรารู้ว่าเราทำสิ่งนี้ทำไมและทำเพราะอะไร คือมันเป็นเรื่องของคนสองคนมากกว่า"
จ๋า - "เป็นเพราะคนไม่รู้มากกว่าค่ะ หรือขนาดตอนไปทานข้าวกับอั๋นและแนะนำกับคนอื่นว่าอั๋นคือแฟนเขายังไม่เชื่อเลย เพราะเหมือนกับเขาฝังใจไปแล้ว ซึ่งความฝังใจนี้มันเคยมีผลกับจ๋าเหมือนกันนะ แต่พอจ๋าเห็นว่าอั๋นเขารับได้ เขาไม่สนใจ เขาไม่ได้ซีเรียสกับสิ่งที่คนมอง จ๋าก็เลยคิดได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเลย แค่ครอบครัวเราคนใกล้ตัวเรารู้ว่าเป็นยังไงเราก็แฮปปี้แล้ว"
อั๋น - "ถ้าจะให้อั๋นออกมาบอกว่าไม่จริงไม่ใช่ คืออั๋นก็ไม่รู้ว่าจะพูดไปทำไม เพราะตัวอั๋นเองก็เกิดมาด้วย หน้าตา รูปลักษณ์ น้ำเสียง ที่เป็นแบบนี้ คือเราก็ไม่รู้จะทำยังไง อย่างบางคนก็บอกว่าแต่งตัวสำอางค์จัง คือ...ทุกอย่างที่พูดมันก็จะเหมือนกับเป็นการแก้ตัวหมดเลย แต่ถ้าหากคนที่รู้จักพี่จริงๆ ก็จะรู้เลยว่าพี่เป็นคนง่ายมาก"
จ๋า - "อย่างบางคนเห็นว่าเขาแต่งหน้าเช้ายันเย็น คือต้องเข้าใจก่อนว่าเขาแต่งหน้าเพราะเขามีงานทั้งวัน อย่างบางครั้งแต่งหน้างานเช้าแล้ว ตอนเย็นมีงานต่อเขาก็ใช้หน้านั้นเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแต่งๆ ลบๆ คือเรื่องพวกนี้มันแล้วแต่จะคิดอ่ะค่ะ เพราะสำหรับอั๋นแล้วเขาก็บอกอยู่ตลอดว่าเขาไม่แคร์"
เราเคยชี้แจงหรืออธิบายไหมกับสิ่งที่คนอื่นคิดไปเอง ?
อั๋น - "พี่คิดว่าแม้แต่ตอนนี้เองขณะที่ทุกคนดูกันอยู่ ถ้าหากพี่บอกว่าไม่ เดี๋ยวก็ต้องมีคนไปคอมเม้นท์อีก (ยิ้ม) ดังนั้นถ้าหากทุกคนสนุกก็สนุกไปละกัน เพราะตั้งแต่วันที่มีข่าวออกมาตัวพี่เองก็ไม่ได้อ่านคอมเม้นท์เลยแม้แต่คอมเม้นท์เดียว พี่แค่เป็นห่วงจ๋ามากกว่าเพราะข่าวมันค่อนข้างไปใหญ่ ซึ่งสุดท้ายพอรู้ว่าเขาโอเค พี่ก็โอเคเลย"
ตอนที่มีข่าวนี้ออกมาทำให้การใช้ชีวิตของเราสองคนยากขึ้นไหม ?
อั๋น - "ทุกอย่างเหมือนเดิม ปกติมาก ใช้ชีวิตปกติมาก"
หลังจากนี้จะต้องปรับลุคใหม่เลยใหม่ให้ดูเข้มขึ้น ?
อั๋น - "พี่ฉอดก็บอกให้ลองไว้หนวด แต่เดี๋ยวพอทำปุ๊ป คนก็จะบอกอีกว่าเดี๋ยวนี้กลับใจเป็นเกย์คิงแล้ว คือถ้าคนมันจะพูดมันก็ไปเรื่อย ดังนั้นเอาที่สบายใจดีกว่าครับ"
จ๋า - "ตอนที่คบเขาแรกๆ ก็คิดว่าเขาเป็นเกย์นะ แต่พอไปๆ มาๆ เราก็ค่อยๆ เรียนรู้ว่า ครอบครัว สิ่งแวดล้อม ที่ทำงาน หรืออะไรต่างๆ มันหล่อหลอมให้เขาดูเป็น คือจ๋าจะบอกว่าแต่ละคนต่างก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน และจ๋าเองก็ทำงานกับคนที่มีความต่างค่อนข้างเยอะ จ๋าเลยไม่ได้รู้สึกว่าความต่างของเขาคือต่างของคนที่เป็นเกย์"
พี่จ๋ามีวิธีแสกนยังไง เพราะตอนแรกเราก็บอกว่าเรายังเคยคิดว่าเขาเป็นเกย์ ?
อั๋น - "เรารู้จักกันมานานแล้วค่ะ ไม่ใช่แค่วันสองวันหรือปีสองปี จ๋าเห็นว่าครอบครัวเขาเป็นยังไง จ๋าเห็นว่าตัวเขาเองเป็นคนยังไง ดังนั้นคำว่าแสกนมันไม่มีหรอก แต่มันเป็นความมั่นใจของเรามากกว่า คือเป็นไม่เป็นเรารู้ได้"
รู้สึกยังไงบ้างกับการที่คนมองว่าเราสองคนแต่งงานกันเพราะธุรกิจ ?
อั๋น - "ไม่เกี่ยวเลย คือยังไง เราจะร่วมทุนกัน ควบรวมกิจการเหรอ ไม่เกี่ยวเลยครับ ทุกวันนี้เราต่างคนต่างก็ยุ่งพอตัวแล้ว"
เราสองคนจีบกันยังไงอยากให้เล่าย้อนไปนิดหนึ่ง ?
อั๋น - "อั๋นจีบ ตอนนั้นเขาจ้างอั๋นไปร้องเพลงและก็เป็นพิธีกรในงานแถลงข่าว หลังจากนั้นเราก็เริ่มเห็นกันเรื่อยๆ และอั๋นก็เริ่มรู้สึกว่าอยากรู้จักเขามากขึ้น"
จ๋า - "เราคบกันแบบผู้ใหญ่ค่ะ คือใช้วิธีการคุยกันมาเรื่อยๆ มากกว่า ไม่ได้เป็นการตั้งหน้าตั้งตาจีบแบบจริงจัง"
เริ่มตัดสินใจตอนไหนว่าแต่งงานกันเถอะ ?
อั๋น - "ก็ถ้าอายุเท่านี้แล้วไม่แต่ง มันก็ไม่ต้องแต่งแล้วแหละ (ยิ้ม) และอั๋นเองก็มองว่าการแต่งงานมันเป็นการให้เกียรติครอบครัวเขาด้วย ให้เกียรติกับทั้งสองฝ่าย ให้ทุกอย่างมันถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เพราะตามประเพณีไทยครอบครัวก็เป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้วครับ"
เห็นว่าก่อนนี้หน้าเวลามีใครถามตัวพี่จ๋าเองก็จะบอกโสดมาตลอด เป็นเพราะอะไร ?
จ๋า - "เขินค่ะ ไม่อยากตอบคำถาม เรื่องส่วนตัวก็ไม่อยากจะเปิดเผย เพราะจ๋าจะเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว"
ระยะเวลาสองคนที่เรารู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว ?
จ๋า - "เรารู้จักกันมาทั้งหมด 9 ปี แต่ก็ไม่ได้แสดงออกตลอดเวลาว่าเราคบกัน"
อยากให้เราว่าช่วงที่ขอแต่งงานเป็นโมเม้นท์ยังไง ?
อั๋น - "เป็นโมเม้นท์เลิกกันไปนานมากเกือบครึ่งปี และพอกลับมาปุ๊ปผมก็ถามเขาว่า หากกลับมาครั้งนี้แล้วแสดงว่าพร้อมแล้วนะสำหรับขั้นต่อไป"
จ๋า - "จากนั้นเขาก็เข้าไปขอกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ คือเป็นการคุยกันด้วยสติมากๆ"
จริงๆ เรามีคำพูดซึ้งๆ บ้างหรือเปล่าหรือว่าคุยกันง่ายๆ เลย ?
อั๋น - "คือผมโดนเขาปฏิเสธมาตลอดเวลา เพราะเขาบอกว่าเขาไม่พร้อม จนสุดท้ายวันที่ขอแต่งงานจริงๆ ขอเขาผ่านแชท โดยส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษไปว่า "ผมจะขอคุณเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการได้ไหม" ซึ่งสุดท้ายจ๋าเขาก็ "ตกลง" (ยิ้ม) ผมยังเซฟข้อความนั้นเก็บไว้เลยครับ ขนาดผมขอไปตั้งแต่ปี 2015 ดังนั้นมันถึงได้ไม่เป็นเรื่องใหม่ไงครับสำหรับคนรอบๆ ตัวเรา"
เรื่องการแต่งงานตอนนี้วางแผนไว้ยังไงบ้าง ?
อั๋น - "วันที่ 14 มกราคม จะเป็นพิธีในโบสถ์ เป็นโบสถ์วัฒนา แต่ในวันที่ 16 มกราคม จะเป็นพิธีไทยตอนเช้า และงานฉลองตอนเย็น ซึ่งจะจัดที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถามว่างานใหญ่ไหม เอ่อ...ไม่เลยครับ ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เราจัดตามความสมควรมากกว่า"
สำหรับเราสองคนตั้งใจจะมีลูกเลยหรือเปล่า ?
อั๋น - "คงต้องมีเลยครับ เพราะเราเองก็พร้อมในทุกๆ ด้านแล้ว และก็น่าจะใช้วิธีธรรมชาติ แต่คงไปให้คุณหมอช่วยตรวจสุขภาพกันก่อน"
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ