อ.เฉลิมชัย โวย แพร่ปล่อยภาพ ร.9 เสียหายหนัก
(9 ธ.ค.) ที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ได้นำภาพถ่ายภาพ "ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก" ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยได้วาดขึ้นเมื่อปี 2542 และปัจจุบันนำไปติดตั้งที่ศาลากลาง จ.แพร่ มาแสดงให้สื่อมวลชนดู เพื่อแจ้งสภาพของภาพดังกล่าวว่าปัจจุบันว่าไม่ได้รับการดูแลรักษาให้ตรงกับที่ได้นำไปจากศิลปินเมื่อประมาณ 17 ปีก่อน
โดยอาจารย์เฉลิมชัยได้ชี้ให้เห็นถึงการติดตั้งภาพดังกล่าวอยู่บริเวณฝาผนังด้านหน้าทางเข้าศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.แพร่ โดยมีการกั้นฉากเอาไว้เบื้องล่างเป็นแถวยาวส่วนผิวของภาพพบมีรอยตำหนิไปจากเดิมหลายจุดทั้งรอยฉีกอย่างน้อย 2-3 จุด มีรอยน้ำเลอะและรอยด่างคาดว่ามาจากมูลของสัตว์ประเภทนกหรือจิ้งจกไม่ต่ำกว่า 6-7 จุด
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ภาพวาดดังกล่าวเกิดจากการที่รัฐบาลในอดีตเมื่อปี 2542 มีโครงการให้ศิลปินได้วาดภาพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมายุ 72 พรรษา เพื่อนำไปติดตั้งที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งกรณีของตนและอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างบ้านดำชาวเชียงรายอีกคนได้วาดและนำไปติดตั้งที่ศาลากลาง จ.เชียงราย ส่วนของตนถูกนำไปไว้ที่ศาลากลาง จ.แพร่ หลังวาดเสร็จเมื่อเดือน ก.ค.2542 เมื่อแรกเริ่มมีการนำไปติดตั้งในสถานที่ที่มีความสง่างาม
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นได้นำตนไปดูพร้อมมีดอกไม้ประดับงดงาม แต่ปรากฏว่าเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนตนได้ให้ลูกศิษย์ไปถ่ายภาพดังกล่าวเพื่อจะได้นำสำเนามาเก็บรักษาเอาไว้ภายในหอศิลป์ ณ วัดร่องขุ่น ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมก็ไปพบวาดภาพใบนั้นอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ดังกล่าว
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ภาพใบนี้วาดได้เทคนิคสีอะคริลิคบนผืนผ้าใบมีความกว้าง178 คูณ 148 ซ.ม.ซึ่งเป็นภาพที่ตนตั้งใจวาดที่สุดและรักที่สุด เพราะเป็นภาพที่วาดขึ้นหลังจากตนได้เข้าถวายงานในหลวง รัชกาลที่ 9 ในการวาดภาพหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก เมื่อมีโครงการดังกล่าวจึงมีแรงบันดาลใจในการวาดภาพนี้ขึ้นก่อนสร้างวัดร่องขุ่นอีก 2 ปีต่อมา
รูปแบบภาพเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีความหมายว่าทรงเป็นเทพที่มีกายทิพย์ที่ลงมาโปรดประชาชนผู้ทุกข์ยากซึ่งตกอยู่ในน้ำที่มีปลาซึ่งหมายถึงความทุกข์ยาก โดยมีทศพิธราชธรรมซึ่งหมายถึงดอกบัวตรงกลางและมีดอกมณฑาโปรยสู่ประชาชนซึ่งเสมือนโครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือ เช่น การเกษตร เขื่อน ฯลฯ
ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่เห็นคุณค่าของศิลปะและปล่อยให้ภาพวาดที่ทรงคุณค่าเป็นเช่นนี้ เพราะปัจจุบันพบว่าได้ย้ายไปติดตั้ง ณ สถานที่ใหม่ที่ไม่ใช่จุดที่เป็นสง่าเหมือนเดิมโดยติดไว้บนเพดานหน้าห้อง กรอบภาพก็พังเสียหาย มีรอยน้ำ มูลสัตว์ และรอยฉีด ซึ่งรอยต่างๆ เหล่านี้ซ่อมแซมได้ยากมากและหากจะซ่อมก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ
การปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ตนเห็นว่าไม่รู้คุณค่าทางศิลปะทำให้ตนเป็นห่วงภาพวาดของศิลปินรุ่นครูอาจารย์ เพื่อนฝูงและน้องๆ ของตนที่นำไปติดตั้งตามศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศในปัจจุบันว่าจะมีสภาพเหมือนกันหรือไม่ จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ จ.แพร่ นั้นหากทางราชการไม่สามารถดูแลรักษาให้สมพระเกียรติได้ก็ควรจะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปเก็บรักษาดูแล เช่น กระทรวงวัฒนธรรม ฯลฯ หรือคืนให้ศิลปินที่จะนำไปเก็บไว้ในหอศิลป์หรือเอกชนที่เขามีการดูแลรักษาได้ดีกว่าด้วย