ฉายาตำรวจ ปี 59 ผบ.ตร. "สุภาพบุรุษโล่เงิน" น.1 "บึ่งทุกที่"

ฉายาตำรวจ ปี 59 ผบ.ตร. "สุภาพบุรุษโล่เงิน" น.1 "บึ่งทุกที่"

ฉายาตำรวจ ปี 59 ผบ.ตร. "สุภาพบุรุษโล่เงิน"  น.1 "บึ่งทุกที่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม เผย ฉายา 11 บิ๊กตำรวจประจำปี 2559 ผบ.ตร. "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อัศวิน "ผู้ว่าส้มหล่น" ศานิตย์ "น.1 บึ่งทุกที่" 

นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2559  โดยระบุว่า ทางสมาคมฯ ได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำผลงานต่าง ๆ มา เสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และตลอดเวลาที่ผ่านมาสื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี จึงได้ร่วมตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้น ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งได้ประชุมกับผู้สื่อข่าวซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนจากสังกัดต่าง ๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและคัดเหลือ 11 นาย ด้วยกันมีดังนี้

1. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ฉายา "สุภาพบุรุษโล่เงิน" จากการทำงานในรอบปีที่ผ่านได้ หน้าขับเคลื่อนการปฏิรูป การบริการประชาชน ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง และองค์กรมีความสามัคคีขึ้น ล่าสุดสั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศที่ไม่ติดราชการ ลงไปช่วยเหลือชาวนาเกี่ยวข้าวในลักษณะจิตอาสา ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มช่องทางขายข้าวให้ชาวนา จนได้รับคำชมจากประชาชนว่าเป็นสุภาพบุรุษ จึงเป็นที่มาของ ฉายา "สุภาพบุรุษโล่เงิน"

2. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฉายา "นายพลน้ำดี" ดูแลงานป้องกันและปราบปราม พร้อมลุยงานป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ จากผลงานที่ผ่านมาไม่ว่า จะจับกุมคดีงาช้าง จับกุมคดีตัดไม้ทำลายป่า จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน และเป็นตำรวจที่ทำงานผ่านมาโดยไม่มีประวัติด่างพร้อย จึงเป็นที่มาของ ฉายา "นายพลน้ำดี"

3. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฉายา "ผู้ว่าส้มหล่น" จากที่ผ่านมา เป็นรองผู้ว่าได้มุ่งเน้นที่จะให้กรุงเทพฯ อยู่อย่างสุขสงบ หรืองานบริการด้านต่าง ๆ การทำงานของ พล.ต.อ.อัศวิน จึงเป็นที่โดดเด่น ภายหลัง ม.ล.สุขุมพันธุ์ได้ถูกพักราชการ นายกรัฐมนตรี จึงได้ใช้ ม.44 แต่งตั้งให้ เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งเหมือนผู้ว่าฯอื่นที่ผ่านมา จึงเป็นที่มาของ ฉายา "ผู้ว่าส้มหล่น"

4. พล.ต.ท.ดร.สุวีระ ทรงเมตตา รรท.(สบ 10) ฉายา "นายพล วันสต๊อปเซอร์วิส" ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ดร.สุวีระ จับกุมคดีสำคัญ ๆ ที่ผ่านมา จนเป็นที่ไว้วางใจของ ผบ.ตร. จึงตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานในการปฏิรูป การให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้น ณ จุดเดียว ด้วยการจัดทีมบูรณาการ รับแจ้งความอย่างรวดเร็ว และดูแลบริการประชาชนอย่างญาติมิตร จึงเป็นที่มาของ ฉายา "นายพล วันสต๊อปเซอร์วิส"

5. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ฉายา "หมอเฉพาะทาง" เนื่องจากว่า บช.ก. เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุมเกือบทุกด้าน มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว เหมือนกับหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ถ้าเกิดคดีสำคัญในท้องที่ต่าง ๆ บช.ก. ก็มีกำลังและหน่วยงานที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น กองปราบ บก.ปอท. บก.ปทส. จะลงไปไปแก้ไขปัญหาจนสามารถปิดคดีได้อย่างโดนใจประชาชน จึงเป็นที่มาของฉายา "หมอเฉพาะทาง"

6. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช. สตม. ฉายา "มือปราบอินเตอร์" หลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตรวจสอบประวัติอาชญากรข้ามชาติที่หลบหนี เข้ามาอยู่ในเมืองไทย จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา จึงได้รับฉายา "มือปราบอินเตอร์"

7. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ฉายา "น.1 บึ่งทุกที่" ส่วนใหญ่ประชาชนและสื่อมวลชนจะเห็นการทำงานของ พล.ต.ท.ศานิตย์ อย่างขยันขันแข็ง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ ขอให้เป็นเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน จะลงไปกำกับดูแลคดี และบริการประชาชนด้วยตัวเองทุกครั้ง จึงเป็นที่มาของฉายา "น.1 บึ่งทุกที่"

8. พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ฉายา "นายพลอกหัก" เนื่องจากที่ผ่านมามีการเสนอชื่อเข้าชิง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเป็นที่ยอมรับของสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทุกคนจึงคาดการว่าจะได้เป็น ผบช.รร.นรต. แต่ผลการแต่งตั้งออกมากลับไม่มีชื่อของ พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ เป็นผบช.รร.นรต. เจ้าตัวคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนโดนปล้นเก้าอี้ จึงทำหนังสือร้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรม ชี้การแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นที่มาของฉายา "นายพลอกหัก"

9. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ. ฉายา "มือปราบสายธรรมะ" เนื่องด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นหัวหน้าหน่วยคอมมานโด ที่ดูแข็งแกร่งน่าเกรงขาม และปราบปรามกลุ่มมาเฟีย จนเป็นที่หวาดกลัวของคนร้าย แต่อีกด้านเมื่อว่างเว้นภารกิจมักจะพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ช่วยเหลืองานการกุศลไม่ขาดสาย ถือว่าเป็นนายตำรวจตัวอย่างดังคำกล่าวที่ว่า งานบุญไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เคยทิ้ง จึงเป็นที่มาของฉายา "มือปราบสายธรรมะ"

10. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร ฉายา "ผู้กำกับปวดหาย" ตั้งแต่เข้ามาประจำการในตำแหน่ง ผู้กับกับในสังกัด บช.น. เริ่มจาก สน.ทุ่งสองห้อง ก็เกิดคดีการตรวจยึดรถหรูจำนวนกว่า 200 คัน และตามมาด้วยพนักงานสอบสวนที่ทำคดีเกิดแรงกดดันตัดสินใจยิงตัวคาแฟลตตำรวจ ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.สุทธิสาร ของเก่ายังไม่เคลียร์ แต่ก็ยังไม่วายเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาอีก ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำร้ายร่างกายนักพนันจนเสียชีวิต ไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหนงานก็เข้าทุกที่ จนต้องกินยาแก้ปวดหาย จึงเป็นที่มาของฉายา "ผู้กำกับปวดหาย"

11. ด.ต.มานะ จอกโคกสูง ผบ.หมู่งานจราจรโครงการพระราชดำริ กก. 6 บก.จร. ฉายา "หมอตำแยสายแว้น" เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ กทม. ประกอบหน่วยงานในสังกัดได้มีการจัดอบรมการทำคลอดฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อมีเหตุหญิงท้องแก่ใกล้คลอดระหว่างนำส่ง รพ. แต่ประสบปัญหาการจราจรติดขัด จนทำให้ ด.ต.มานะ และเพื่อนในสังกัด บึ่งรถจักรยานยนต์คู่กาย ไปทำคลอดกลางถนนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงให้ฉายา "หมอตำแยสายแว้น"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook