อุทาหรณ์! หนุ่มเริ่มจากเป็นแผลที่ขา ลิ่มเลือดอุดตัน จนเกือบช็อก

อุทาหรณ์! หนุ่มเริ่มจากเป็นแผลที่ขา ลิ่มเลือดอุดตัน จนเกือบช็อก

อุทาหรณ์! หนุ่มเริ่มจากเป็นแผลที่ขา ลิ่มเลือดอุดตัน จนเกือบช็อก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(13 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก Thapatch Kaewvaen ได้โพสต์เล่าเรื่องราวอุทาหรณ์ของอาการความเจ็บป่วยของสามี พร้อมเผยภาพขาที่เป็นรอยแดงบวม และติดเชื้อ โดยผู้โพสต์อธิบายอาการว่า เริ่มต้นจากขาข้างขวาตั้งแต่เท้าถึงเหนือเข่าเกิดบวมโดนไม่ทราบสาเหตุ ก่อนไปพบแพทย์ได้ซื้อยากินเอง แต่ไม่ได้ผล เมื่ออัลตร้าซาวด์ ได้พบว่า มีลิ่มเลือดอุดตันบริเวณข้อเท้าด้านหน้า และด้านข้าง 2 จุด  

โดยสาเหตุน่าจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการจากกิน ที่ชอบดื่มน้ำอัดลม ของหวาน เพราะพบว่าค่าเลือดมีความหนืดมาก จนแพทย์ต้องให้ยาละลายลิ่มเลือด ประกอบกับการชอบนั่งไขว้ห้างเป็นประจำ ซึ่งอาการป่วยเริ่มต้นจากเป็นแผลเล็กๆ ที่เท้าขวา

ซึ่งผู้ป่วยไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็หายเองได้ แต่ประกอบกับร่างกายเกิดลิ่มเลือดอุดตันขึ้น จนบานปลายเกิดเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งแพทย์แนะนำว่า ให้เปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองทั้งการกิน การอยู่ ให้ขยับตัวไม่นั่งท่าเดิมนานๆ ให้ลุกเดินและเปลี่ยนท่าเวลาทำงาน ออกกำลังกาย ปรับการกิน โดยมีข้อความดังนี้ 

"ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีเรื่องยุ่งๆปวดหัวตลอด เรื่องยุ่งๆยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่หนักสำหรับบ้านเราคือการเจ็บป่วย ที่เวียนกันเป็นครบทุกคนในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่น้องไหม ซึ่งไม่ป่วยมานานมาก แต่ช่วง 3 เดือนมานี้นางป่วยมาตลอด ผลัดกันเข้าโรงบาลหาหมอจนอิแม่เพลีย ที่หนักสุดคือสามี นอนโรงพยาบาลเกือบ 2 อาทิตย์แล้วยังต้องพักฟื้นต่อที่บ้านอีก โรคที่เค้าเป็นคือติดเชื้อในกระแสเลือด ที่มาเล่าให้ฟังวันนี้เพื่อเป็นความรู้สำหรับทุกคนๆ เพราะเค้ามีโรคมาก่อนหน้านี้อันเกิดจากนิสัยการกิน และการใช้ชีวิตประจำวัน

เมื่อราวๆเดือน พ.ค. ปีนี้ อยู่ดีๆขาข้างขวาตั้งแต่เท้าจนถึงเหนือข้อเท้ามาเล็กน้อยของสามีเราอยู่ๆก็บวม โดยไม่ทราบสาเหตุ บวมขนาดใส่รองเท้าไม่ได้ บวมอยู่ราวๆ2-3 อาทิตย์ถึงจะไปหาหมอ ซึ่งก่อนไปหาหมอก็ซื้อยากินเอง จำพวกยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้เส้นอักเสบอะไรพวกนั้น แต่กินแล้วไม่ได้ผล ถึงยอมไปหาหมอ ปรากฏว่าพออัลตร้าซาวด์ดูคือมีลิ่มเลือดอุดตันบริเวณข้อเท้าด้านหน้า และด้านข้าง 2 จุด คาดว่าเกิดจากนิสัยการนั่งไขว้ข้อเท้า ทำบ่อยๆ จนบริเวณนั้นบาดเจ็บ

ทีนี้ประจวบกับเป็นคนนิสัยเสียเรื่องกิน ของมันของหวาน น้ำอัดลมจัดเต็มตลอด ตรวจเลือดมาค่าเลือดหนืดมาก ยิ่งส่งเสริมให้มีลิ่มเลือด หมอต้องให้ยาละลายลิ่มเลือด เพื่อช่วยรักษาอาการนี้ โรคนี้ดันอันตรายตรงที่ลิ่มเลือดสามารถลอยไปอุดตันอวัยวะอื่นๆได้คือมันลอยไปได้ทั่วตัวอ่ะ ซึ่งถ้าไปอุดปอด หรืออวัยวะภายในอื่นๆอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ แต่ด้วยความที่มันไม่มีความเจ็บปวดอะไร เค้าก็ชิลล์ใช้ชีวิตเหมือนเดิม กินยาบ้างไม่กินบ้างไปเรื่อย

 จนมาวันนึงอยู่ดีๆกลับจากทำงานเค้าบอกเราว่าปวดหัว ความดันพุ่งไป 170 แต่เค้ายังกินข้าว กินขนมอะไรปกติ พอดึกๆเราตื่นเพราะเค้าลุกๆนั่ง ปรากฏว่าแฟนเราทั้งอาเจียน ทั้งถ่ายเราก็นึกว่าอาหารเป็นพิษ ก็ให้คาร์บอนกินแล้วก็นอน เช้ามาส่งลูกไปเรียน

สามีหยุดงานเพราะตัวร้อนมาก เค้าว่าเค้าหนาวสั่น ห่มผ้า 2 ชั้นทั้งๆที่ไม่เปิดแอร์ ไข้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่หนักคือขา ขาข้างขวาบวมแดง เปลี่ยนสีแบบน่ากลัวมาก เลยพาส่งโรงบาล หมอรับตัวไว้เลยเพราะตรวจเลือดแล้วค่าเลือดค่าไตค่าอะไรทั้งหลายไม่ดีซักอย่าง หมอกลัวว่าจะช็อก

สรุปรอบนี้คือแฟนเป็นแผลเล็กๆ ที่เท้าขวาซึ่งตัวเค้าเองไม่ได้สนใจนึกว่านิดเดียวเดี๋ยวก็หายเอง แต่ตัวเองมีลิ่มเลือดอุดตันอยู่ด้วย เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีรูปให้ดู ในรูปยังดูไม่น่ากลัว เพราะถ่ายที่โรงพยาบาลไฟมันไม่สว่าง เห็นไม่ชัด ของจริงน่ากลัวมาก รักษาตัวมาเดือนกว่าแล้วจนถึงวันนี้ ขายังไม่กลับไปสภาพปกติเลย ยังมีบวมมากอยู่และยังมีแดงๆเป็นบางจุด หมอบอกว่ารักษาทีละอย่าง ตอนนี้รักษาอาการติดเชื้อก่อน หายสนิทเมื่อไหร่ค่อยรักษาลิ่มเลือดต่อไป

ทางป้องกัน หมอแนะนำว่าให้ขยับตัวบ่อยๆ อย่านั่งท่าเดิมนานๆ ให้ลุกเดินเปลี่ยนท่าทางบ้าง ออกกำลังเบาๆ เปลี่ยนนิสัยการกิน ทุกวันนี้พยายามทำกับข้าวกินเอง เพื่อจะได้ควบคุมทุกอย่างตามที่หมอสอนไว้ เหนื่อยโคตรๆอ่ะสำหรับเรา เพราะทั้งงานบ้าน ลูก หมา ตอนสามีป่วยนี่แบบ อยากแยกร่างได้ ต้องวิ่งรอกระหว่างบ้านกับโรงบาล แล้วลูกกับหมาอีก แต่ยังดีที่บ้านเราค่อนข้างเข้าใจกัน ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นก็พร้อมรับสภาพไปด้วยกัน ใกล้ปีใหม่แล้ว ปีนี้จัดหนักจัดเต็มเกินพอล่ะ อย่าหนักไปกว่านี้เลยพี่เพลีย"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook