เปิดใจ คุณตา'สารคาม ดราม่าตัดไม้พยุงในที่ตัวเอง แต่ติดคุก

เปิดใจ คุณตา'สารคาม ดราม่าตัดไม้พยุงในที่ตัวเอง แต่ติดคุก

เปิดใจ คุณตา'สารคาม ดราม่าตัดไม้พยุงในที่ตัวเอง แต่ติดคุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจ "คุณตา" ที่มหาสารคาม กลายเป็นประเด็นหลังติดคุกเพราะตัดไม้พยุง ที่เติบโตอยู่ในที่นาของตัวเอง แต่ถูกจับติดคุก ตำรวจชี้ยังไงก็ตัดไม่ได้

จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้แชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ ไกด์ ภาคภูมิ ขอความเป็นธรรมให้กับพ่อและน้าชาย ซึ่งมีอายุมากแล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทางการจับกุมในข้อหาลักลอบตัดไม้พะยูง ทั้งที่อยู่ในที่ของตนเอง ติดคุกข้ามวันข้ามคืน โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ประกันตัว ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 1 บ้านแกดำ ต.แกดำ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม พบกับ นายทองสุก พันชมพู อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ส่วนอีกรายคือ นายเดิน จันทกล อายุ 70 ปี เป็นคู่เขยกัน โดยนายทองสุก เล่าให้ฟังว่า ไม้พะยูงดังกล่าว เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่นาของตน

และเมื่อช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา ไม้พะยูงเกิดล้มจากแรงพายุขวางถนน ทำให้รถที่ผ่านไปผ่านมาสัญจรไม่ได้ ตามภาพที่แชร์ในโลกโซเชี่ยล ตนได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ในตอนนั้นทั้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบแล้ว

แต่ผ่านมาหลายเดือนไม่เห็นมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยตัดไม้ให้ชาวบ้านได้ใช้เส้นทางสัญจรเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เส้นทางดังกล่าวเป็นทางสัญจรของชาวบ้าน และเป็นเส้นทางไปทิ้งขยะที่บ่อขยะของเทศบาลตำบลแกดำ ทำให้ชาวบ้านต้องขับขี่รถอ้อมทางเข้ามาในที่ของตน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน

เมื่อตนทำนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ชวน นายเดิน ให้มาช่วยตัดไม้ เพื่อให้สามารถใช้เส้นทางได้เหมือนเดิม โดยใช้เลื่อยมือหรือเลื่อยตะเข้ ขนาดความยาว 1.40 เมตร ช่วยกันตัด แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในข้อหาลักลอบตัดไม้พะยูง

ตามความเข้าใจของตน คือ ตนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทางการแล้ว เจ้าหน้าที่รับทราบแล้ว แต่เมื่อไม่มาดำเนินการ และไม้พะยูงก็ผุพังปลวกขึ้น ตนจึงคิดจะตัดไม้ไปทำฝืน ไม่ได้คิดว่าจะนำไม้ไปขาย หรือเพื่อทำการค้าแต่อย่างใด อีกทั้งคนโบราณถือว่า ไม้ที่หักชาวบ้านจะไม่นำมาปลูกบ้านหรือซ่อมแซมบ้าน ต้องเป็นไม้ยืนต้นที่ไปตัดเองเท่านั้น หากเป็นไม้ล้มทำได้เพียงแค่ทำฝืนเท่านั้น เพราะหากนำไปทำบ้าน ก็จะถือว่าไม่เป็นสิริมงคล

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ. จุมพล เปรมศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแกดำ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณทุ่งนาทางทิศเหนือบ้านโพธิ์ศรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูง จึงได้ร่วมกับทหารและฝ่ายปกครองออกไปตรวจสอบ

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบไม้พะยูงตัดเป็นท่อนแล้ว พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กำลังใช้เลื่อยมือตัดไม้พะยูงอยู่ จึงได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.แกดำ และได้ยึดของกลางคือ ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.30 เมตร ความยาว 1.9 เมตร จำนวน 1 ท่อน ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.20 เมตร ความยาว 2.0 เมตร จำนวน 1 ท่อน

ไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.10 เมตร ความยาว 3.00 เมตร จำนวน 1 ท่อน และไม้พะยูงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.20 เมตรความยาว 1.30 เมตร จำนวน 1 ท่อน และเลื่อยตะเข้ 1 ปื้น ซึ่งไม้พะยูงถือเป็นไม้หวงห้าม ไม่สามารถตัดได้ ถึงแม้ว่าอยู่ในที่นาของตนเอง

โดยตนได้ลงพื้นที่พร้อมทำความเข้าใจกับผู้ต้องหาและญาติแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ประกันตัวไปในวันที่ 13 ธันวาคม นายศักดิ์ ทองภูบาล ใช้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านแกดำ เป็นคนประกันตัวไป โดยศาลนัดอีกครั้งวันที่ 23 ธันวาคมนี้

เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ นายทองสุก และ นายเดิน ที่ต้องการตัดไม้ที่ผุ เพื่อเปิดทางถนน และนำไม้ไปทำฝืน ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความกันได้ โดยจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสรุปสำนวนส่งฟ้องศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาคดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook