มิน เปิดหมดใจ!! ไฮโซ โอ๊ต คือคนที่ใช่และกำลังดูใจกันอยู่

เปิดใจแบบไม่มีกั๊กสำหรับความรักครั้งใหม่ของนางเอกสาว "มิน พีชญา" กับไฮโซหน้าตี๋ "โอ๊ต พิทักษ์" และดูเหมือนกับครั้งนี้สาวมินจะเปิดเผยออกสื่อเป็นพิเศษ เพราะล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ว่าสถานะความสัมพันธ์ตอนนี้คือศึกษาดูใจกันอยู่ และให้เกียรติกันต่างคุยแค่คนเดียว ส่วนจะเรียกแฟนได้ไหมนั้นอยากให้ไปถามฝ่ายชายเอง

หลายคนสังเกตเห็นวันไปสนามหลวง มีหนุ่มใส่แว่นตามไปด้วย?

"ไม่ใส่แว่นแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ วันนั้นเราไปทำความดีเนอะ และชวนเพื่อนๆ ไปหลายคน วันนั้นปุ๊กลุกจะเป็นกำลังสำคัญของมินด้วย เขาก็พาเพื่อนเขามา" 

เหมือนเป็นการพามาเปิดตัว?

"ไม่หรอกค่ะ จริงๆ ไม่ได้มีจุดประสงค์แบบนั้นนะ อย่างที่บอกเรารวมตัวกันไปทำความดี ใครไปได้ก็ไป ซึ่งก็มีหลายคนที่ไปไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็โชคดีที่วันนั้นพี่โอ๊ตให้เกียรติไปร่วมทำบุญกับพวกเราด้วย จริงๆ เราก็ให้เกียรติกันเลยค่ะ เพราะเราต่างก็คุยกันแค่คนเดียว ค่อยๆ ศึกษาดูใจกันไปทีละคน"

เราถูกใจเขาตรงไหนบ้าง?

"พี่โอ๊ตเป็นผู้ใหญ่มากๆ ค่ะ บางทีเขาก็ดูถูกคอกับคุณพ่อเราด้วย เราก็รู้สึกสบายใจ ทางคุณพ่อคุณแม่มินก็รู้สึกเอ็นดูนะคะ ตัวเขาก็เอ็นดูมินด้วย มันก็เป็นการช่วยเหลือ พึ่งพาอาศัยกันในหลายๆ เรื่องค่ะ อย่างทางพี่โอ๊ตเองจะเก่งเรื่องการบริหารการเงิน เน้นไปเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ ซึ่งครอบครัวมินก็ทำธุรกิจ ก็เลยได้สนับสนุนกัน"

เรียกว่าพ่อแม่ไฟเขียวเลยได้ไหมสำหรับคนนี้?

"จริงๆ พ่อแม่มินไม่เคยมีโจทย์ว่าจะต้องเป็นใครอะไรยังไง ถ้าลูกโอเคคนไหนก็คนนั้น และเขาก็พูดตลอดว่ามินไม่ใช่เด็กๆ แล้วแหละ เขาเปิดและใจกว้างมากแต่ทุกอย่างก็ยังอยู่ในสายตาผู้ใหญ่"

เรียกแฟนได้ไหม?

"คนนี้เหรอคะ จริงๆ ต้องไปถามเขาดีกว่า (หัวเราะ) สำหรับมินคือเราดูใจกันเลยแหละ ตัวมินก็พยายามจะเป็นน้องที่ดี และเป็นคู่ที่ดีอีกคู่หนึ่ง คือต้องบอกก่อนเลยว่าเราทำงานเยอะเนอะ ถ้ามันได้ก้าวไปอีกสเต็ปที่มากกว่านี้เราก็ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน คือเรายังจิตนาการไม่ค่อยออก เพราะเรายังทำงานเยอะจริงๆ"

ดูเหมือนคนนี้เราจะกล้าเปิดตัวมากกว่าคนอื่นๆ?

"มินไม่ได้เปิดและก็ไม่ได้ปิดนะคะ มินก็ใช้ชีวิตแบบปกติ นี่ก็เพิ่งกลับจากสิงคโปร์เลยเพิ่งมีโอกาสได้เจอกันหรือทำงานร่วมกัน"

กับคนนี้ศึกษาดูใจมานานเป็นปีแล้วหรือยัง?

"ยังค่ะ ดูๆ กันไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ มินเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง"

เห็นมีกระแสออกมาว่าผู้จัดการส่วนตัวเราจะฟ้องนักเลงคีย์บอร์ดที่เข้าไปคอมเม้นท์ในไอจีถีงเรื่องกระเป๋าหรูไม่เลิก?

"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่จริงๆ คือตอนนี้กฎหมายเกี่ยวกับด้านการคุ้มครองโลกโซเชียลมีเดียมันก็ดีขึ้นเนอะ คือมันมีทั้งข้อดีข้อเสีย ด้านธุรกิจการค้ามันถูกพัฒนาให้ใช้ได้อย่างดีขึ้น ส่วนเรื่องการมีข้อมูลกับวิธีการใช้งานที่ถูกต้องในเรื่องของจริยธรรม ศีลธรรม มินว่ามันคงต้องใช้เวลากว่าคนจะเข้าใจ ซึ่งตอนนี้หลายคนก็ได้รับความรู้มากขึ้นเกี่ยงกับการใช้งาน แต่ตอนนี้ทุกคนสามารถเขียนอะไรก็ได้ลงไปได้เลยโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ต้องขอบคุณค่ะที่ประเทศไทยไม่ได้น้อยหน้าใครในตรงนี้ ตอนนี้เลยมีกฎหมายออกมาคุ้มครองเยอะ มินเชื่อว่าหลายๆ อย่างมันจะพัฒนาไปได้ค่ะ ส่วนตัวมินเองจะไม่ค่อยซีเรียสอะไรเพราะไม่ได้อ่านอยู่แล้ว ไอจีช่วงหลังมานี้ยังไม่ค่อยได้โพสต์อะไรเลยค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ ส่วนทางผู้จัดการของมินเองเขาก็จะมีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ ภาพลักษณ์ต่างๆ ที่มันยังคงดูแลและควบคุมได้อยู่ คนที่มีสิทธิ์จะแสดงความคิดเห็นก็แสดงต่อไป แต่ต้องไปอยู่บนพื้นฐานที่ทำร้ายผู้อื่น มันไม่ใช่แต่ประเด็นมินนะ ของมินนี่ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่มินเห็นหลายเคสที่ลืมตาอ้าปากไม่ได้เลย"

ตอนนี้กระเป๋าได้มีเอามาใช้บ้างหรือยัง?

"อ๋อ เอามาแล้วค่ะ แต่จริงๆ มินไม่ค่อยได้ถือหรอกค่ะ จะเป็นคนอื่นถือว่ามากกว่า (หัวเราะ) มินพยายามจะไม่เอามาถือกลัวมันเปื้อนค่ะ"

ที่เราไม่กล้าเอามาใช้เพราะกลัวถูกคนจับตามองด้วยหรือเปล่า?

"ไม่ มินก็เพิ่งเอาใช้ล่าสุดนะคะ ไม่ได้เอาไปไว้ไหน คือบางอย่างก็แปลกเนอะถูกจับผิดนิดหน่อยแต่กลายเป็นข่าวดังระดับประเทศได้ แต่พอมันถูกแก้ไขให้ถูกต้องโดยมีหลักฐาน มีการนำเสนอข่าวว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องไปเรียบร้อยแล้วข่าวกลับเล็กนิดเดียวเอง แบบนี้เราเลยมองว่าเราจะทำยังไงให้คนสามารถเข้าใจเราได้เพราะเราก็ทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้ว"

น้อยใจไหมคนจับตามองไม่เลิกเลย?

"ไม่ๆ มันเป็นเรื่องที่ดีนะคะที่คนยังให้ความสนใจ ทำให้รู้ว่ายังมีคนคิดถึง ก็มองโลกในแง่ดีไป (ยิ้ม)"