รองปลัดยุติธรรม แนะคดีหมอนิ่ม ควรนำมูลเหตุแห่งความจูงใจมาเป็นส่วนลด

รองปลัดยุติธรรม แนะคดีหมอนิ่ม ควรนำมูลเหตุแห่งความจูงใจมาเป็นส่วนลด

รองปลัดยุติธรรม แนะคดีหมอนิ่ม ควรนำมูลเหตุแห่งความจูงใจมาเป็นส่วนลด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงคดีของหมอนิ่ม ที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาให้ประหารชีวิต โดยอ้างถึงคำกล่าวของคุณทิชา ณ นคร ที่ระบุว่า หญิงไทยยอมอดทนอยู่คู่สมรสที่ใช้ความรุนแรง จนวันหนึ่งต้องตอบโต้กลับ แต่กระบวนการยุติธรรม มักไม่เอามูลเหตุแห่งความจูงใจมาเป็นส่วนลด

เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลจังหวัดมีนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พญ.นิธิวดี หรือ หมอนิ่ม ภู่เจริญยศ เป็นจำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริม ให้ฆ่า , มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาให้ประหารชีวิต พญ.นิธิวดี

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในการเสวนาเรื่อง “น้ำพระทัยพระองค์ภา กับการให้โอกาสแก่ผู้ต้องขังหญิง” เมื่อปี 2554 ซึ่งจัดโดยสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ จังหวัดเชียงใหม่ โดยคุณทิชา ณ นคร ได้พูดถึงคำว่า "แม่หม้าย" เป็นคำที่หญิงไทยไม่พึงประสงค์ และบวกกับความห่วงใยลูก จึงต้องทนทุกข์ระทม ยอมอดทนอยู่คู่สมรสที่ใช้ความรุนแรง จนวันหนึ่งต้องตอบโต้กลับ แต่กระบวนการยุติธรรม มักไม่เอามูลเหตุแห่งความจูงใจมาเป็นส่วนลด

นายธวัชชัย ยังระบุอีกว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นองค์ประธานและร่วมเสวนาในงานดังกล่าว ระบุความตอนหนึ่งว่า “คดีที่ผู้หญิงตกเป็นจำเลยทำร้ายคู่สมรสนั้น การสืบเสาะและพินิจจำเลยมากขึ้นนั้น จะเป็นการเพิ่มข้อมูล เพื่อที่ทุกท่านจะได้ใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบมากขึ้น แต่ก็ติดด้วยข้อกฎหมาย และจะสามารถไปหาแนวทางแก้ไขร่วมกันได้หรือไม่”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook