ผุดไอเดียจัดงานเลี้ยงฝ่ายค้าน-รบ.หลังประชุมสภาเดือดหวิดวางมวย วิปรัฐบาล กร้าวเกมนับองค์ประชุมไร้ผล

ผุดไอเดียจัดงานเลี้ยงฝ่ายค้าน-รบ.หลังประชุมสภาเดือดหวิดวางมวย วิปรัฐบาล กร้าวเกมนับองค์ประชุมไร้ผล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชินวรณ์ ลั่นเกมนับองค์ประชุมฝ่ายค้านไร้ผล ไม่มีทางนำไปสู่การยุบสภา แก้ทางขอปิดอภิปรายและลงมติ เพื่อไทย เร่งตรวจสอบส.ส.โดดร่ม-เสียบบัตรแทน อภิวันท์ ผุดไอเดียจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ประสานสัมพันธ์ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาล หลังจากประชุมสภาเดือดหวิดวางมวย

 

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ว่า ปัญหาการเสนอให้นับองค์ประชุมของฝ่ายค้าน จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง และนำสู่การยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะความเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ แต่หากฝ่ายค้านใช้การนับองค์ประชุมเป็นเกมป่วนสภา ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องขอปิดอภิปรายและลงมติ เพื่อไม่ให้เกมป่วนในสภาเป็นอุปสรรคในการออกกฎหมายของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะใช้กระบวนการดังกล่าวนี้เป็นบรรทัดฐานของสภาในอนาคต ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากฝ่ายค้าน แต่ปัญหาคือ วิปฝ่ายค้านยังไม่มีเอกภาพ และ ส.ส.บางส่วนในพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจยังทำใจไม่ได้ จึงคิดว่าเป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลที่ต้องสร้างความพร้อมเพรียงและความเข้มแข็งของรัฐบาล

 

 

นายชินวรณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านโต้เถียงกันรุนแรงจนเกือบมีการวางมวยว่า มีบ้างที่ ส.ส.อาจมีอารมณ์ในการที่แสดงความคิดเห็นในสภา แต่อะไรที่ไม่เข้าใจกันก็สามารถให้วิปทั้งสองฝ่ายหารือกันได้ ขณะเดียวกันอยากให้ประชาชนติดตามบทบาทของ ส.ส.ในสภา ซึ่งจะช่วยควบคุมพฤติกรรมของ ส.ส.ในอนาคตด้วย ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าสภาไทยคงไม่ไปไกลเหมือนสภาไต้หวันที่รุนแรงจนมีการใช้กำลัง เพราะจากการเก็บข้อมูลพบว่ามีการประท้วง หรือเหตุการณ์ปะทะกันแค่ 10% ของเวลาที่ใช้ในสภา จึงอยากให้มั่นใจว่าเวลาส่วนใหญ่ 90% ส.ส.ได้อภิปรายและทำงานอย่างมีประโยชน์

 

 

นายชินวรณ์ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะเคลื่อนไหวทั้งนอกและในสภา เพื่อกดดันรัฐบาลว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงคิดผิด เพราะการกดดันในสภาต้องใช้เสียงข้างมาก แต่ขณะนี้ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่มีเอกภาพที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันได้เหมือนเดิม ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรรอให้พรรคที่ตัวเองสนับสนุนได้เสียงข้างมากก่อนแล้วค่อยต่อสู้ในการแก้กฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยังให้เวลากับตัวเองโดยเป็นฝ่ายค้านถึง 8 ปี

 

 

สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำในขณะนี้ ยิ่งทำให้คนเคลือบแคลง เช่นกรณีที่บริหารพรรคแล้วไม่สามารถคัดเลือก ส.ส.ภายในพรรคเป็นหัวหน้าพรรคได้ ทำให้ไม่มีกระบวนการที่มีผู้นำฝ่ายค้านในสภา และ พ.ต.ท.ทักษิณควรให้เวลากับตัวเองต่อสู้ทางการเมืองตามระบบนิติธรรม เชื่อว่าจะได้รับการยอมรับ แต่ถ้ามองว่าคนไทยสามารถควบคุมได้โดยตระกูลชินวัตร ตั้งพี่น้องไปคุมภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง ผมคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณยิ่งคิดผิดทางการเมือง นายชินวรณ์กล่าว

 

 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ว่า ต้องอยู่ที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน ส.ส.ก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ ตามกฎกติกามารยาท ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประธานในสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด ซึ่งใครที่ทำไม่ดีคนก็เห็นอยู่

 

 

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนและฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยกำลังตรวจเช็ครายชื่อ ส.ส.ที่ปรากฏในบอร์เดอร์พาสสายการบินต่างๆ ว่าในช่วงบ่ายวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่ามี ส.ส.คนใดเดินทางลงพื้นที่ของตัวเองในต่างจังหวัดในระหว่างการประชุมสภาบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบเบื้องต้นมี ส.ส.ประมาณ 5-6 คนไม่อยู่ในที่ประชุมสภา แต่มีการเสียบบัตรนับองค์ประชุมแทน

 

 

ที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนแล้วคือ นายตุ่น จินตะเวช ส.ส.อุบลราชธานี พรรคชาติไทยพัฒนา แต่ยังพบ ส.ส.ซีกรัฐบาลอีกจำนวนหนึ่งที่มีการเสียบบัตรนับองค์ประชุมแทนกัน แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าใครเสียบบัตรแทนใคร ดังนั้นขอให้ผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างการประชุมแต่ปรากฏชื่อในใบประมวลผลนั้น ควรออกมารับสารภาพ ก่อนที่เราจะได้หลักฐานจากสายการบินว่าใครเดินทางลงพื้นที่ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 กุมภาพันธ์และเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯในเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์นายประชากล่าว และว่า การนับองค์ประชุมไม่ได้เป็นยุทธศาสตร์การทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้าน แต่ถือเป็นการทำตามบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ ดังนั้นจะจับตาเรื่ององค์ประชุมในการประชุมทุกนัด

 

 

นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงปัญหาเรื่ององค์ประชุมสภาว่า งานนี้เรียกว่ากรรมติดจรวดติดเทอร์โบ เพราะสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านก็เคยใช้มาตรการนี้กับพรรคพลังประชาชนในอดีตมาแล้ว แต่เมื่อวันนี้ตัวเองเป็นรัฐบาลกลับมาเจอเอง ซึ่งการที่ต้องปิดประชุมเพราะองค์ประชุมไม่ครบบ่อยครั้งนั้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ

 

 

พอทราบบ้างว่ารัฐบาลเริ่มที่จะใช้มาตรการในระยะสั้นบางอย่างกับคนของเขาแล้ว แต่ในระยะยาวนั้นน่าจะมีปัญหา นายวิทยากล่าว

 

 

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวถึงเหตุการณ์การปะทะคารมระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลจนบานปลายเกือบจะชกต่อยกันระหว่างการประชุมสภาเมื่อคืนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ว่า เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งต้องดูสาเหตุของเหตุการณ์ อย่างไรก็ดี ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถกลับมาร่วมประชุมกันได้ เรื่องนี้มองว่าขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุมด้วย โดยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เกิดจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นเสนอชื่อกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย ซึ่งความจริงต้องเคารพสิทธิพรรคเพื่อไทย เมื่อถอนชื่อแล้วไม่ควรนำมาเสนออีก แต่พรรคประชาธิปัตย์เกรงว่าองค์ประกอบคณะกรรมาธิการจะไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องทำเช่นนั้น ส่วนประธานก็ไม่ควรเปิดโอกาสให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาอ่านชื่อกรรมาธิการในส่วนพรรคเพื่อไทย

 

 

ผมเตือนแล้วว่าให้ประธานวิปรัฐบาลและประธานวิปฝ่ายค้านออกมาตกลงกันให้ได้ก่อนว่าจะหาทางออกกันอย่างไรในประเด็นร่างกฎหมายผู้สูงอายุ เป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงินหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหายื่นตีความกันให้เสียเวลา แต่ก็ไม่ฟังกัน ในที่สุดก็เกิดความวุ่นวายขึ้นจนได้ พ.อ.อภิวันท์กล่าว

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า บรรยากาศตึงเครียดแบบนี้เป็นไปได้หรือไม่จะจัดงานเลี้ยงกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า คงต้องมีจัดบ้าง ล่าสุดนายกสโมสรรัฐสภาได้รับเชิญจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้จัดทีมฟุตบอลรัฐสภาไปร่วมแข่งขันกัน ก็กำลังจัดทีมกันอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook