เซลล์แมนสุดแสบ หลอกขายเครื่องซักผ้าเก่าให้คนตาบอด

นายสนั่น  และ น.ส.รจนา  สองสามีภรรยา ผู้พิการตาบอด  ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกเซลล์หลอกขายเครื่องซักผ้าเก่า และยังใช้การไม่ได้ ผู้เสียหายเล่าว่าตนและภรรยา เช่าห้องแถวเลขที่ 246/22  ถนนนิวาศ ตรงข้ามตลาดแฮปปี้ไลท์ ตำบลในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดรับบริการนวดแผนไทยเพื่อเลี้ยงชีพ

แต่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเซลส์แมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งมาติดต่อขายเครื่องซักผ้าให้ ซึ่งตอนแรกทั้งสองบอกว่าไม่มีเงิน แต่เซลล์รายนี้พยายามหาแนวทางที่จะขายให้ โดยบอกว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่แบบ 2 ถัง ขนาด 11 กิโลกรัม ราคา 18,000 บาท และเสนอเงื่อนไขว่าจะออกเงินดาวน์ให้ก่อน 1,490 บาท

จากนั้นก็ให้ตนผ่อนส่งเป็นงวดๆ ละ 803 บาท ภายหลังจึงตกลงซื้อเครื่องซักผ้าตามที่เซลล์เสนอขาย เพราะเครื่องซักผ้าเก่าที่ใช้อยู่มีขนาดเล็ก หวังจะนำเครื่องซักผ้าใหม่มาใช้ซักผ้าปูเตียงสำหรับบริการนวดให้กับลูกค้า และตั้งใจจะนำเครื่องเก่าไปบริจาคให้กับคนที่ยังไม่มีเครื่องซักผ้าใช้งาน  

เมื่อถึงวันนัดส่งของ พบว่าสินค้าไม่ได้บรรจุกล่อง และไม่มีคู่มือการใช้งาน  แต่ด้วยความไว้ใจจึงไม่ได้ทักท้วงอะไร   เมื่อใช้งานผ่านไปเพียง 2 สัปดาห์ เครื่องซักผ้าเกิดปัญหาน้ำไหลซึมตลอดเวลาจึงแจ้งทางร้าน ภายหลังมีช่างมาซ่อมด้วยการเอาลวดมาผูกไว้ให้เท่านั้น   ต่อมาเซลล์คนเดิมก็มาเก็บเงินดาวน์ 1,490 บาท ส่วนเครื่องซักผ้าก็ใช้ได้ตามปกติ

จนกระทั่งครบกำหนดส่งงวดแรกเป็นเงิน  803 บาท  มีเพื่อนบ้านมาดูเครื่องซักผ้าและพบความผิดปกติ เพราะมีรอยขูดขีดทั่วเครื่อง  เพื่อนบ้านรายนี้ยืนยันว่าเครื่องซักผ้าที่ได้รับมาเป็นขอเก่า ตนจึงโทรศัพท์ไปถามแต่เซลล์ก็ยังยืนยันว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่  ด้วยความที่ตนและภรรยาตาบอกจึงมองไม่เห็น และไม่รู้ว่าสินค้าที่ได้เป็นของเก่าหรือของใหม่

ภายหลังผู้จัดการบริษัททราบเรื่อง   จึงขอตรวจสอบเอกสารการจ่ายเงินพร้อมยอมรับว่าเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ เป็นสินค้ามือสอง แต่ยังไม่ได้พูดถึงแนวทางการเยียวยาช่วยเหลือสองสามีภรรยาคู่นี้ แจ้งเพียงว่าหลังปีใหม่จะมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อนบ้านเกรงว่าจะถูกหลอกซ้ำสองเพราะราคาที่ตกลงซื้อขายกัน 18,000 บาท  แต่กลับระบุในสัญญาราคา  20,762 บาท

ขณะที่สองสามีภรรยากล่าวว่าหลังเกิดปัญหา ไม่อยากได้เครื่องซักผ้าเครื่องนี้แล้ว  ต้องการให้บริษัทมาเอาเครื่องกลับไปเพราะเสียความรู้สึกที่มาหลอกลวงกันทั้งที่เป็นคนตาบอด ถือว่ามีเจตนาหลอกลวงผู้บริโภค  และไม่ต้องการให้พนักงานไปหลอกลวงลักษณะนี้กับลูกค้าคนอื่นที่ด้อยโอกาสอีก   พร้อมฝากเตือนผู้พิการหากจะซื้อสินค้าอะไรควรดูให้รอบคอบ เพื่อจะได้ไม่ถูกหลอกเหมือนกับตนเอง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังบริษัทดังกล่าวยังไม่มีการชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงบอกว่าขณะนี้ได้ติดต่อกับลูกค้าแล้ว  และพร้อมจะรับผิดชอบตามที่ลูกค้าต้องการ เพราะทางบริษัทไม่ต้องการให้เกิดเรื่องขึ้นเพราะถือเป็นความบกพร่องของพนักงานขาย