แพทย์ห่วง "จ๋า" สาวไทยติดคุกโอมาน หวั่นซึมเศร้าฆ่าตัวตาย
จากกรณี “น้องจ๋า” สาวไทย ชาว อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือผ่านเฟซบุ๊กว่าตนเองติดคุกอยู่ที่ประเทศโอมาน เพราะมียาต้องห้าม ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยารักษาโรคประจำตัว
ล่าสุด (28 ธ.ค.) แม่ของน้องจ๋า ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ โดยเล่าว่า ก่อนหน้านี้ “น้องจ๋า” ลูกสาวของตนเองนั้น เคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทหลายแห่ง ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง แต่ต่อมามีอาการเจ็บป่วย เป็นโรคเครียด และโรคซึมเศร้า จึงต้องออกจากงานมาเพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลูกสาวบอกว่าอยากจะเดินทางไปหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่ประเทศโอมาน ตนเองเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จึงไม่ได้ห้ามปราม
แต่พอไปถึงประมาณวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ทราบว่า “น้องจ๋า” ถูกควบคุมตัวเนื่องจากมียาต้องห้ามเข้าประเทศ และได้ขอเอกสารรับรองจากทางโรงพยาบาล ซึ่งตนเองก็ดำเนินการขอแล้วส่งไปให้ แต่หลังจากนั้นก็พยายามจะติดต่อหาลูกสาว คือ “น้องจ๋า” มาตลอด แต่ก็ไม่สามารถติดต่อกับน้องจ๋าได้อีก
นายธานินท์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก ได้เปิดเผยว่าหลังจากทราบข่าวว่า “น้องจ๋า” เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ ก็ได้หาข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนั้นก็ได้ประสานงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ โดยเฉพาะสถานฑูตไทย ประจำประเทศโอมาน
ด้าน พ.ต.ท. สัญญา หาญวณิชชานนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เท่าที่ทราบข้อมูล รวมทั้งจากเอกสารหลักฐานต่าง ๆ “น้องจ๋า” น่าจะทำผิดกฎหมายของประเทศโอมานกรณีนำยาเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก และมียาต้องห้ามด้วย ส่วนในเรื่องของการถูกจำคุก หรือถูกดำเนินคดี คาดว่าน่าจะเป็นเพียงการควบคุมตัวเพื่อรอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมจากทางประเทศไทย โดยทาง ตม.เอง ก็จะประสานงานดูแลในเรื่องข้อกฎหมายว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใดของกฎหมาย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่ นายสมชาย พรหมมณี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีของ “น้องจ๋า” มีประวัติการรักษากับแพทย์ 2 ท่าน ตามอาการป่วยของโรค รวมกัน 7 ชนิด และได้มีการสั่งจ่ายยาแยกกัน ในตัวยาที่ “น้องจ๋า” ได้รับไปนั้น มียาทรามาดอล (Tramadol) ที่เป็นยาควบคุมในประเทศไทยด้วย แต่คาดว่าตอนที่แม่ของ “น้องจ๋า” มาขอเอกสารรับรองการจ่ายยานั้น อาจจะขอไปไม่ครบ เพราะมีการระบุเพียง 3 ชนิด เท่านั้น อย่างไรก็ตามมีความน่าเป็นห่วงว่า “น้องจ๋า” ซึ่งมีอาการป่วย และไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่องนานถึง 2 เดือน อาจจะทำให้มีอาการกำเริบ ซึ่งในโรคซึมเศร้า ก็อาจจะส่งผลให้ผู้ป่วยคิดฆ่าตัวตายได้