ชาวบ้านงง! ตำรวจออกใบสั่งแบบใหม่ ยันไม่ใช่ของปลอม

ชาวบ้านงง ตร.ทางหลวงพัทยาออกใบสั่งตัดกระดาษ A4 ให้เสียค่าปรับ ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติก็โดนไปตามๆกัน ด้านหัวหน้าด่านแจง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ถามเป็นนโยบายของใคร บอกคิดเองทำเองเพื่อลดขั้นตอนไม่เสียเวลา

 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้ถนนในเขตเมืองพัทยาว่าได้โดนใบสั่งเป็นที่ต้องสงสัยที่ทำจากกระดาษA4 ถ่ายเอกสารตัดแบ่งโดยหัวกระดาษระบุ เป็นตราตำรวจทางหลวง พร้อมแยกประเภทรถโดยสาร ก่อนบรรทัดล่างจะจำแนกเป็นข้อกล่าวหาต่างๆ ในการกระทำผิด พรบ.จราจร ก่อนลงท้ายให้ระบุชื่อนามเรียกขาน และลงท้ายว่า ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. โดยมีการโพสต์และแชร์ข้อมูลผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ผ่านสาธารณะชนอย่างกว้างขวาง โดยชาวบ้านมองว่าเป็นความไม่ชอบมาพากลเนื่องจากมีประชาชนตั้งข้องสงสัยเกี่ยวกับการออกใบสั่งดังกล่าวจำนวนหลายราย

ล่าสุด (31 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการรายงานว่าที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวงเมืองพัทยา บริเวณริมถนนสุขุมวิท ก่อนถึงถนนพัทยาใต้ มีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง โดยมีการจัดตั้งกรวยจราจรเพื่อบังคับเลนจราจรและห้ามยูเทิร์นย้อนศรบริเวณก่อนถึงหน้าสถานี ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบาก จึงเดินทางรุดไปตรวจสอบเพื่อสังเกตุการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ท่ามกลางการจราจรที่คับคั่งเนื่องในช่วงเลาดังกล่าวเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาพักผ่อนยังเมืองพัทยาในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

พบว่ามีการบังคับเลนจราจรเพื่อให้ยวดยานที่ผ่านไปมาบังคับให้เข้าไปยังบริเวณหน้าสถานีโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาตำรวจทางหลวงคอยให้สัญญาณรถราที่ผ่านไปมาให้ขับไปตามทางที่ได้ทำการตั้งกรวยจราจร เมื่อไปถึงบริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวงทางหลสงพัทยา มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบเอกสารรถจักรยานยนต์ รวมถึงรถยนต์และรถโดยสารประเภทต่างๆ กันอย่างขะมักเขม้น บ้างพบประชาชนยืนต่อคิวจ่ายเงินเปรียบเทียบปรับกันเป็นแถวยาวโดยประชาชนที่ยืนเข้าคิวจ่ายเงินค่าปรับอยู่นั้นต่างถือใบสั่งที่ตัดด้วยกระดาษ A4 ตามที่ได้รับการร้องเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก

ต่อมา ร.ต.อ.สิโรจน์ รื่นเริง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพัทยา ในฐานะหัวหน้าด่านตรวจ ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นข้อกังขาของสังคมว่า การตั้งด่านตรวจดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั้งนี้เป็นการป้องกันอุบัติเหตุบนถนนหลวงที่ประชาชนอาจอาศัยเส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมาในช่วงเทศกาลซึ่งอาจมีการมึนเมาสุราเนื่องจากการสังสรรค์ได้ โดยการปรับเลนการจราจรนั้นเพื่อความสะดวกต่อการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ในการตรวจตรายวดยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าว่ากระทำผิดเพื่อจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและลดจำนวนเหตุอาชญากรรม

ในส่วนของใบสั่งที่เป็นข้อสงสัยของสังคมนั้น ไม่ได้เป็นใบสั่งปลอมแต่อย่างใดแต่เป็นเพียงใบติ๊กข้อกล่าวหาเพื่อสะดวกต่อการทำงาของเจ้าหน้าที่เนื่องด้วยมีผู้กระทำผิด พรบ.จราจรเป็นจำนวนมาก ประกอบกับใบสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นมีเพียง 25 ฉบับต่อหนึ่งเล่มเท่านั้น จึงเกรงว่าอาจทำให้การทำงานล่าช้า ไมได้เป็นใบสั่งตามที่ประชาชนสงสัยแต่อย่างใด จึงอยากทำความเข้าใจกับสังคมในเรื่องนี้ผ่านทางสื่อมวลชนด้วย

ต่อข้อซักถามที่ว่าการออกใบติ๊กข้อกล่าวหาดังกล่าวป็นนโยบายของหน่วยงานใด เนื่องจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีใบสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอยู่แล้วนั้น นายตำรวจคนดังกล่าวตอบกลับมาว่าเป็นความคิดของสถานีตำรวจเองเพื่อลดเวลาในการปฏิบัติงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และกล่าวอ้างว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานการจับกุมผู้กระทำผิดที่สามารถยืนยันได้ โดยส่วนใหญ่จะพิจารณาตามดุลยพินิจและอะลุ่มอะล่วยตามเห็นสมควร เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล ซึ่งผู้กระทำผิดส่วนใหญ่จะเป็นในส่วนของการไม่มีใบอนุญาติขับขี่ ทั้งนี้ด่านตำรวจทางหลวงจะตั้งในช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 21.00 น.ถึง เวลา 23.00 น.ของแต่ละวันก่อสิ้นสุดปฏิบัติการทำงาน