กรมชลประทาน ชี้ น้ำล้นเขื่อน แจ้งหนีน้ำท่วมไม่ใช่หน้าที่
ภาพน้ำที่ล้นออกจากเขื่อนคลองลอย และสันเขื่อนโป่งสามสิบ ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจบคีรีขันธ์ อาจทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเติม แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดประกาศให้ประชาชนเตรียมรับมือหรืออพยพ ด้านกรมชลประทานผู้ดูแลเขื่อนออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ระบุไม่มีหน้าที่แจ้งเตือน
วันนี้ (10 ม.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฎการณ์น้ำล้นท้ายเขื่อน ทำให้กรมชลประทานออกมาชี้แจ้งถึง 2 ครั้งว่า เป็นเพราะฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนทำให้น้ำในเขื่อนมีปริมาณมากเกินความจุของอ่างเก็บน้ำ ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ยอมรับกับพีพีทีวี ว่า ถ้ามวลน้ำกัดเซาะทำนบดินหรือคันดินเป็นเวลานาน ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เขื่อนแตกได้
ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่น้ำล้นออกมาจากสันเขื่อนในอำเภอบางสะพาน ระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมถูกมองว่า ล่าช้าจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน เรื่องนี้ นายเลิศชัย ศรีอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา บอกว่า การตั้งศูนย์ช่วยเหลือและอพยพ รวมถึงแจ้งเตือน เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมชลประทานทำได้เพียงแจ้งสถานการณ์น้ำล่าสุดเท่านั้น ส่วนจะแจ้งเตือนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้นำในพื้นที่อำเภอบางสะพาน
ทั้งนี้ อุปสรรคในพื้นที่น้ำท่วมอำเภอบางสะพาน กรมชลประทาน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำขึ้น-น้ำลง ของทะเลด้วย หากอยู่ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง อาจจะทำให้การระบายน้ำล่าช้าลง แม้จะอยู่ใกล้ปากอ่าวทะเลเพียง 4 ถึง 5 กิโลเมตร ก็ตาม