คดีพลิก! แม่ค้าหมูปัดถูกไอ้โม่งลักพาตัว แค่มีคนมารับไปพักผ่อน

(11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานถึงความคืบหน้ากรณี 2 คนร้ายสวมไอ้โม่งขับรถยนต์เก๋งปาดหน้าดักฉุดตัว นางจิรภา หรือ ต่าย อายุ 37 ปี ชาว อ.เมือง จ.สุรินทร์ อาชีพขายหมูในตลาดน้อยรื่นรมย์ เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์

โดยพยานให้การว่า คนร้ายนำตัวนางจิรภา ขึ้นรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส สีบรอนด์เทา หมายเลขทะเบียน 872 ไม่ทราบหมวดอักษรหน้ากับหมวดจังหวัด เนื่องจากคนร้ายใช้ผ้าเทปดำปิดบังไว้ หายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ของวันที่ 8 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณซอยข้างวัดศาลาลอย ระหว่างที่นางจิรภา ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมากับน้องสาว แต่น้องสาวหนีมาได้ ญาติโพสต์ระบุว่า หายตัวไปรวม 2 วัน 2 คืนแล้ว ขอความร่วมมือและช่วยเหลือจากพลังโซเชียล หากใครพบเห็นหรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับคดีดังกล่าวให้แจ้งมาทางสามีและญาติ (อ่านข่าว : ญาติโพสต์วอนช่วย ไอ้โม่งลักพาตัวแม่ค้าขายหมู หายเงียบ 2 วัน)

ล่าสุดวันนี้ (11 ม.ค.60) พ.ต.อ.ยศวัจน์  งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสุรินทร์ ซึ่งลงติดตามเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้คนให้ความสนใจของผู้คน โดยล่าสุดในช่วงค่ำของวันที่ 10 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์  สามารถควบคุมตัว 2 คนร้ายตามที่เป็นข่าวได้แล้ว รวมทั้งพบตัว นางจิรภา ห่อทรัพย์ ผู้ถูกลักพาตัว หลังถูก 2 ผู้ต้องหานำตัวไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติของทั้ง 2 ต้องหา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานีแล้ว โดยไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด (อ่านข่าว : จับ 2 ไอ้โม่งลักพาตัว แม่ค้าขายหมูปลอดภัย เค้นสอบแรงจูงใจ)

 พ.ต.อ.ยศวัจน์  งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า คดีนี้เดิมเป็นความเข้าใจว่าเป็นดีลักพาตัว เป็นคดีอาญาแต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ปรากฏเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลได้ไม่มาก เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไปพบตัวที่ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งรถที่ใช้ในวันเกิดเหตุ มีข้อมูลครบทุกอย่าง พร้อมกันนี้ นางจิรภาก็ได้ปากคำแล้วทั้งหมด ระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดของญาติๆ ไม่ได้เป็นการลักพาตัวแต่อย่างใด เป็นเรื่องเกี่ยวกับความไม่สบายใจที่เกิดที่บ้าน เลยให้ผู้อื่นมารับเพื่อไปพักผ่อนสงบสติอารมณ์ ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องของครอบครัว เป็นเรื่องส่วนตัว สรุปคือไม่มีความผิดอาญาเกิดขึ้น

ในขณะที่ผู้ต้องสงสัย 2 คน เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาให้ปากคำทั้งหมดแล้วเช่นกัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและรายละเอียด ซึ่งผู้เสียหายยืนยันไม่มีความผิดคดีอาญาเกิดขึ้น และไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของ นางจิรภา โดยสามีได้ออกมาพบ ขอร้องห้ามมิให้มีการถ่ายภาพทำข่าว ระบุว่าตนและครอบครัวเหนื่อยล้ากับการออกตามหา และขอให้จบเรื่องนี้เพียงแค่นี้ เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว