เปิดตัวพระผู้ใหญ่ถูกกล่าวหาแปลงเพศ! เจ้าตัวขอสึกวันนี้ ยันไม่ได้ผ่า
ผู้ว่าฯลำพูนลุยตรวจวัดที่ถูกกล่าวหามีเจ้าอาวาสแปลงเพศ พระเณรแตกฮือวิ่งจีวรปลิวหนี ส่วนเจ้าตัวเผ่นทิ้งวัดไปตั้งหลัก พศ.เผยพระผู้ใหญ่แปลงเพศลำพูนขอสึกแล้ว ยืนยันแทนไม่ได้ผ่าแปลงเพศ
ความคืบหน้าหลังคมชัดลึกเสนอข่าว พระผู้ใหญ่ในวัดแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน แปลงเพศเสริมอึ๋มสลัดจีวรสวมวิกแต่งหญิงออกเที่ยวกลางคืนและซื้อบริการทางเพศจากกลุ่มนักศึกษาชายเป็นประจำ กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 ก.พ.นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายสุรชัย ขยัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยกำลังตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบภายในวัดศรีบุญเรือง ถนนอินทยงยศ ต.ในเวียง อ.เมืองลำพูน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อไปถึงพระและสามเณรจำนวน 2 รูป รวมทั้งเด็กหนุ่ม วัยรุ่นอีก 2 คน วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนชั้นสองของอาคารกุฏิซึ่งถูกแบ่งเป็นห้องกว่า 20 ห้อง คล้ายหอพัก เมื่อเจ้าหน้าที่เคาะเรียกทั้งหมดไม่ยอมออกมาจากห้อง ทำให้นายดิเรกต้อง เจรจาประมาณ 5 นาที จึงยอมเปิดประตูห้อง โดยปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องส่วนตัวของเจ้าอาวาส และไม่ทราบไปไหน
พระผู้ใหญ่แปลงเพศลำพูนขอสึกแล้วยันไม่ได้ผ่าแปลงเพศ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2552 ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นศ.สาวออกมาแฉพระผู้ใหญ่ในจ.ลำพูน แปลงเพศ ฉีดนม ท่องราตรี ออฟผู้ชาย ว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูนได้แจ้งข่าวด่วนมายังตนว่า พระครูโสภณปริยัติ (สมาน) เจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 2 เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.ลำพูน จะขอลาสิกขาบทแล้ว เพราะไม่อยากให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้ขอสึกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะบวชมาตั้งแต่อายุ 11 ปี จึงเกิดความเบื่อหน่าย แต่โยมแม่ได้ขอไว้ เพราะอยากให้ลูกอยู่ในผ้าเหลือง จึงยังไม่ได้สึกออกมา เมื่อมาเกิดกรณีนักศึกษาสาวมาร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเลี้ยงเด็กจึงถือโอกาสสึก และอยากจบปัญหาทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม พระครูโสภณปริยัติ ได้ชี้แจงเรื่องนศ.สาวร้องเรียนว่า น่าจะเกิดจากความหึงหวงแฟนหนุ่มซึ่งเป็นเด็กวัด และพระครูโสภณปริยัติได้ส่งเสียให้เรียนจริง แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ดังที่ถูกกล่าวหา เป็นการส่งให้เด็กในวัดเรียนตามปกติ ส่วนกรณีมีการกล่าวหาว่าได้ผ่าตัดแปลงเพศแล้วนั้น ทางรองเจ้าคณะจังหวัดลำพูนได้ยืนยันแล้ว จากการสอบถามพระโสภณปริยัติ ได้คำตอบว่ายังไม่ได้มีการผ่า หรือแปลงเพศอะไรทั้งนั้น
"สิ่งที่เป็นข่าวไม่เป็นความจริง ในทางตรงกันข้ามพระโสภณปริยัติ บวชเรียนมานานจึงเป็นที่ศรัทธาของญาติโยม เป็นพระที่ดี เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นจึงของสึกจากความเป็นพระ เพราะเกรงว่าจะนำเรื่องเสื่อมเสียมาถึงวัด และพระพุทธศาสนา" ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าว
พระราชปัญญาโมลี รองเจ้าคณะจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ล่าสุด อาตมาได้รับหนังสือขอลาสิกขาบทจากพระครูโสภณปริยัติ ทั้งนี้ ได้รายงานให้เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัด ในฐานะพระสังฆาธิการผู้ปกครอง ได้รับทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ก่อนที่จะมอบหนังสือดังกล่าวไปให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูนดำเนินการต่อไป โดยในหนังสือของพระครูโสภณปริยัติได้แจ้งว่าจะทำพิธีลาสิกขาบทในวัดบ้านเกิดที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 7 ก.พ. แต่ไม่ได้แจ้งเวลาและวัดที่จะขอทำพิธีลาสึกแต่อย่างใด เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนตามไปสร้างความวุ่นวาย
ตามหลักพระธรรมวินัยสงฆ์ การลาสิกขาบท สามารถประกอบพิธีที่วัดแห่งใดก็ได้ ขณะเดียวกัน พระครูโสภณปริยัติ ได้ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่ขอชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเท่าที่เกิดเรื่องเช่นนี้ ถือได้ว่าทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์เมืองลำพูนเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อให้เรื่องราวจบลงด้วยดี พระครูโสภณปริยัติ จึงขอลาสิกขาบท นับแต่นี้เป็นต้นไป
"สำหรับพฤติกรรมของพระครูโสภณปริยัติ ตามที่เป็นข่าวนั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะมีโอกาสได้พบและพูดคุยกับท่านไม่มากนัก ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น ท่านเป็นคนเรียบร้อย พูดจาไพเราะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้น อาตมาในฐานะพระผู้ใหญ่ก็ไม่สะดวกจะสอบถาม แต่ภายหลังจากได้รับหนังสือลาสิกขาบท ได้สอบถามท่านโดยตรง ท่านก็บอกว่าไม่รู้สึกติดใจในประเด็นข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ท่านจะขอลาสึกทันที" พระราชปัญญาโมลี กล่าว