ปส.แถลงจับ “ไซซะนะ” แก๊งค้ายาอาเซียน ขบวนการใหญ่กว่า “เล่าต๋า แสนลี่”

ปส.แถลงจับ “ไซซะนะ” แก๊งค้ายาอาเซียน ขบวนการใหญ่กว่า “เล่าต๋า แสนลี่”

ปส.แถลงจับ “ไซซะนะ” แก๊งค้ายาอาเซียน  ขบวนการใหญ่กว่า “เล่าต๋า แสนลี่”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

20 ม.ค. 60 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในช่วงสายวันนี้ว่า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมกับนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการป.ป.ส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมศุลกากร แถลงผลปฏิบัติการ “ชัยยะสยบไพรี 60/1”

ซึ่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม จ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา และเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมทั้งแถลงผลการตรวจค้นเป้าหมาย 36 จุด ของเครือข่ายนายไซซะนะ โดยมีมูลค่าทรัพย์ที่อายัดได้นั้น เบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากการทำงานแบบบูรณาการ่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการร่วมกันดำเนินการตามแผน “ชัยยะ สยบไพรี 60/1” เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และตรวจยึดทรัพย์สินบุคคลในเครือข่ายของนายไซซะนะ หัวหน้าผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใหญ่กว่าแก๊งของนายเล่าต๋า เเสนลี่

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดและพยายามสืบหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายต่างๆ จนทราบว่ามีเครือข่ายสำคัญในการนำยาเสพติดมาจากเขตพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านและนำลงไปภาคใต้ โดยผ่านภาคอีสานของประเทศไทย กระทั่งนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่

รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า พฤติการณ์ของเครือข่ายนายไซซะนะนั้น จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เครือข่ายนายไซซะได้ลำเลียงยาเสพติดส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน โดยเมื่อปี 2559 หน่วยราชการไทยจับกุมเครือข่ายนี้ได้ 4 คดี พร้อมยาบ้า 5 ล้านเม็ด

ก่อนจะสืบสวนสอบสวนขยายผลที่นำไปสู่การออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายได้อีก 9 ราย โดยตอนนี้จับกุมได้แล้ว 4 ราย คือ นายไซซะนะ, นายชุมพร พนมไพร , นายปุ่น ชรินทร์ และน.ส.อ้อยทิพย์ ปัญญารักษ์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามและจับกุมตัว

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ผลการตรวจยึดทรัพย์สิน 36 จุด ในพื้นที่ภาค 1, 4 และ 5 รวม 6 จังหวัดคือ เชียงใหม่, อุดรธานี, สกลนคร, ขอนแก่น, นนทบุรี และปทุมธานี เบื้องต้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้ 74 รายการเเบ่งเป็นบ้านทรงไทย 2 หลัง, โฉนดที่ดิน 14 แปลง, รถยนต์ 14 คัน, จักรยานยนต์ 11 คัน, รถเพื่อการเกษตร 2 คัน, บัญชีเงินฝาก 29 รายการ และทองรูปพรรณพร้อมเงินสดไทยและต่างประเทศ รวม 1.5 ล้านบาท มูลค่าที่ตรวจยึดได้ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

โดยผลการตรวจค้นดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19-21 ม.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ตรวจยึดไปได้แล้ว 11 แห่ง ส่วนอีก 25 แห่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามกรอบเวลาที่วางไว้ การติดตามยึดและอายัดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดของเครือข่ายดังกล่าวนั้น จะส่งเรื่องให้ปปง.ดำเนินการต่อไป ซึ่งอาจะต้องใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง

นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อว่า ช่วงเช้าวันนี้ (20 ม.ค.) ยังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สปป.ลาว ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นว่า กำลังดำเนินการเข้าตรวจค้นในแขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งคาดว่ามีทรัพย์สินของนายไซซะนะ จำนวนมากกว่าที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน จนทำให้สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ได้

"ล่าสุดยังได้รับการประสานจากสิงคโปร์ ในการให้ข้มูลข่าวสารเกี่ยวกับเครือข่ายที่ลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศต่างๆในอาเซียนไปจำหน่ายในประเทศ เพื่อร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป"

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า ขบวนการของนายไซซะนะมีความเติบโตของขบวนการใหญ่กว่านายเล่าต๋า เพราะมีการปรับปรุงยาเสพติดและมีเครือข่ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 เครือข่ายที่มีการส่งขายไปยังไทยเเละภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งประเทศนอกอาเซียน ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งผู้มีอิทธิพลข้ามชาติที่เข้ามาในไทย จากการสอบปากคำนายไซซะนะเบื้องต้นยังไม่ได้ให้การยอมรับหรือปฏิเสธทั้งหมด

"นายไซซะนะเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่สปป.ลาว มีการทำธุรกิจมาก เช่น โรงแรม โรงเลื่อย และเหมือง ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 5 คน คาดว่ามี 2 คนหลบหนีอยู่ในไทย"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook