"ก้อย" ปลื้ม "ตูน" ยกเค้ก HBD ไม่โกรธดราม่าบางสะพาน
เป็นคู่รักที่มักชวนกันทำกิจกรรมดี ๆ ช่วยเหลือสังคมและคนไทยมาโดยตลอด สำหรับ "ก้อย รัชวิน" และ "ตูน บอดี้แสลม" จนคนยกให้เป็นคู่รักจิตอาสา ล่าสุดในงาน #เกิดมาช่วย "ตัดช่วยใต้" โครงการหาเงินบริจาคครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับเยียวยาพี่น้องชาวใต้จากการประสบภัยน้ำท่วม โดย "วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา" จับมือกับทีม "ตือ สมบัษร ถิระสาโรช" รวบรวมช่างตัดผมชื่อดังของประเทศ ช่างตัดผมชื่อดังในโซเชียล พร้อมช่างผมจิตอาสากว่า 100 ชีวิต สลับสับเปลี่ยนมาตัดให้พี่น้องชาวไทย ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ พาร์คพารากอน
ทั้งคู่ก็ได้ร่วมกิจกรรมถือกล่องเดินรับบริจาคเงิน ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากที่ก่อนหน้านี้นำเงินบริจาค เสื้อผ้านักเรียน และอุปกรณ์การเรียนไปมอบให้กับน้อง ๆ โรงเรียนต่างๆ ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และถือโอกาสยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับก้อยด้วย
ความรู้สึกที่มาร่วมงานวันนี้ ?
ก้อย : "เป็นกิจกรรมที่ดีมากเลย คือตอนนี้เราเห็นอยู่ว่าสถานการณ์ทางภาคใต้หลายจังหวัด อุทกภัยมันหนักหนาสาหัส หลายคนที่ช่วยเหลืออย่างตัวเราเองหรือพี่วู้ดดี้ก็เป็นกระบอกเสียง เป็นสะพานบุญอันใหญ่มากที่ได้มารวมตัวกันทำอะไรดี ๆ เพื่อคนที่เขาเดือดร้อนจริง ๆ ไอเดียนี้เป็นไอเดียที่เจ๋งมากค่ะ"
ตูน : "ทุกคนไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ก็อยากทำอาชีพของตัวเองให้เป็นประโยชน์ ช่างตัดผมก็เช่นเดียวกัน เขาอยู่ที่ร้านเขาก็อยากจะช่วยก็ไม่รู้จะทำยังไง จะออกมาวิ่งก็ไม่ใช่ ผมก็คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมากที่เจาได้ทำสิ่งที่เขาถนัดอยู่แล้ว ได้ตัดผมให้คนด้วย ได้มีความสุขด้วย สุดท้ายแล้วก็ได้ช่วยการกุศลได้ด้วย ก็เป็นโครงการที่เจ๋งมากครับ"
วันนี้จะมีไปช่วยช่างทำผมไหม ?
ก้อย : "วันนี้เราก็มาช่วยเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ เราตัดผมไม่เป็นให้ช่างตัดดีกว่า ตอนที่เราวิ่งก้าวคนละก้าว พี่วู้ดดี้ก็มาช่วยวิ่งโดยที่เราไม่ได้เอ่ยปากขอ และยังเป็นกระบอกเสียงช่วยเป็นสื่อกลางในเรื่องของการถ่ายทอดสด เยอะแยะมาก ๆ ในวันนี้พี่ชายของเราเขาทำสิ่งนี้เราก็รู้สึกว่าเราอยากช่วย มาซับพอร์ตให้มากที่สุดที่จะทำได้ อย่างพี่ ๆ ช่างตัดผมที่มาวันนี้ทุกคนค่าตัวตัดผมทีแพงมาก ๆ บางคนหลักพัน บางคนเป็นหมื่น"
ตูน : "วันนี้เขายอมทิ้งรายได้ตรงนั้นมา"
มีบริจาคส่วนตัวไหมวันนี้ ?
ก้อย : "เดี๋ยวจะช่วยบริจาคด้วย"
ตูน : "ตอนนี้ยังไม่ได้รู้เลยว่าจะต้องบริจาคเท่าไหร่ ยังไง แต่คิดว่าเดี๋ยวจะบริจาคด้วย"
ก่อนหน้านี้เราก็ลงไปช่วยน้ำท่วมที่บางสะพานด้วย ?
ก้อย : "อันนั้นเป็นการไปช่วยเหลือโรงเรียนค่ะ คือมันเริ่มต้นจากที่เราไปวิ่งที่บางสะพาน แล้วก็ได้รู้จักกับคนในพื้นที่ พอเกิดน้ำท่วมเขาก็ติดต่อมาว่าเกิดความเดือดร้อนตรงนี้ ซึ่งมีหลายโรงเรียนมากในบางสะพาน ที่ประสบปัญหาอุทกภัย มีชาวบ้านเดือดร้อนมาก ๆ เราก็คิดว่าสิ่งที่เราจะทำได้ตรงนี้ เริ่มแรกเราก็ประสานไปให้คุณบอย ช่วยทำข้าวกล่องไปช่วยผู้ประสบภัย"
ตูน : "ตอนนั้นสิ่งที่ต้องการเร่งด่วนมันไม่ใช่เงินละ บางคนติดอยู่บนถนนเป็นวัน ก็ส่งอาหารส่งน้ำเข้าไปให้พื้นที่ที่ต้องการจริง ๆ หลายคนก็ตอบกลับมาในอินสตาแกรม ว่าขอบคุณมาก คุณพ่อเขาติดอยู่ในรถทัวร์ได้ข้าวกล่องไปมันช่วยเขาได้จริง ๆ เราก็รู้สึกว่าบางจังหวะไม่ได้ต้องเงิน บางจังหวะต้องการกำลังใจ หรือบางจังหวะต้องการแค่ข้าวกล่องเดียว เพราะอยู่ที่นั่นต้องช่วยกันตั้งแต่หน้างาน รวมถึงระหว่างที่งานเกิด หรือน้ำท่วมเกิด รวมถึงหลังจากน้ำได้พัดผ่านไปแล้ว มันก็ยังทิ้งอะไรหลาย ๆ อย่างให้ได้ยังช่วยกันอยู่ ตรงนี้ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำกับบางสะพาน มันเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ที่เราทำได้ เงินวันนี้เราไม่ได้บริจาคเพิ่มเติม แต่จากตลอดที่เราทำกันมาเราก็ใช้เงินส่วนตัวหลายแสนแล้วที่เราลงไป ผมว่าเรามีกำลังตรงนี้ที่เราจะลงไปที่อำเภอหรือจังหวัดหนึ่ง เราก็ทำเท่าที่กำลังเราจะทำได้ อย่างวันนี้พี่วู้ดดี้มีกระบอกเสียงเป็นล้านคนเขาก็ทำตามกำลังที่เขาจะทำได้ เป็นภาพที่สวยงามมาก"
เห็นลงไปช่วยซ่อมแซมบ้านที่บางสะพานด้วย ?
ตูน : "เราช่วยส่งสตางค์ไปมากกว่า เราคงไม่ได้ไปต่อเติมอะไรด้วยตัวเองเยอะ"
ก้อย : "อาทิตย์ที่แล้วเราลงไปที่บางสะพานกัน ก่อนก็ขออนุญาตเปิดบัญชีเพื่อให้ทุกคนมาร่วมบริจาค ก็เป็นส่วนของสิ่งของ อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้า แต่พอคุณครูเขาส่งรูปมาให้ดู เราก็รู้สึกว่าต่อให้เราส่งของลงไปให้เขาในตอนนี้ เขามีชุดนักเรียนมีรองเท้า แต่เขาไม่มีที่เรียน มันก็น่าเศร้า เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะช่วยฟื้นฟูได้เร็วที่สุดคือการให้เงินไปฟื้นฟู"
ตูน : "บางที่เขาความต้องการมันต่างกัน บางที่ไม่ได้ขาดแคลนชุดนักเรียน แต่ขาดแคลนโต๊ะเรียน อุปกรณ์การเรียน ก็ให้เงินไป ให้ผู้อำนวยการหรือคุณครูได้จัดสรรตามความจำเป็นของแต่ละที่จะดีที่สุดครับ"
ตอนนี้หลายคนมองว่าคู่เราเป็นคู่รักจิตอาสา คู่รักใจบุญ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
ตูน : "ผมมองว่าทุกคนทำนะ ไม่ใช่แค่เราสองคน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไรก็ตาม ไม่ว่าหน้ากล้องหรือหลังกล้อง ทุกคนทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ จริง ๆ แล้วมีอีกหลายคนควรจะมาอยู่หน้ากล้องแทนเราด้วยซ้ำ สิ่งที่คนอื่นมาให้ค่ากับเรามันเกินตัวมาก เราคิดว่าคนอื่นทำเยอะกว่าเราอีก อยากให้หลาย ๆ คนมองถึงคนที่ทำตรงนั้นเยอะไม่ต้องมาหยุดอยู่ที่เรา เราต้องทำเพราะเราต้องทำ ถ้าเรารู้ปัญหาแล้วเราไม่ทำผมคิดว่ามันใช้ไม่ได้"
นอกจากนำเงินไปบริจาคให้กับน้อง ๆ แล้ว ยังมีเค้กไปเซอร์ไพรส์วันเกิด ?
ตูน : "ใช่ ๆ คือเราเห็นว่ามันเป็นวันเกิดแล้ว ก็มีน้อง ๆ ได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขา เราก็เลยบอกทีมงานว่าในระหว่างที่เราเดินทางไป เดี๋ยวช่วยเตรียมให้เราหน่อยนะครับ"
ก้อยรู้สึกอย่างไรบ้างนาน ๆ ทีพี่ตูนจะเซอร์ไพรส์ ?
ก้อย : "เรียกว่าไม่เคย (หัวเราะ) ล้อเล่น คือปกติพี่ตูนจะเซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จ พี่ตูนเขาอยากจะให้อะไรก็ให้โต้ง ๆ เลย จะไม่มีมาเซอร์ไพรส์ ไม่ได้มีพิธีรีตรอง มาวางผงวางแผนอะไร แต่วันนั้นเราก็เซอร์ไพรส์มาก เพราะเราไม่ได้คาดหวังอะไร เราไม่ได้มองว่าเรามาด้วยวันเกิดหรืออะไร มันแค่ส่วนหนึ่งที่ตรงวันพอดี สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับก้อยคือการที่ทุกคน คนไทยทุกคนบริจาคเงินให้กับก้อยทั้งหมดห้าแสนบาท เราได้ไปช่วยโรงเรียนจากตอนแรกเราจะบริจาคแค่โรงเรียนเดียว กลายเป็นว่าจำนวนเยอะมากขึ้น เราสามารถกระจายความช่วยเหลือไปถึง 4 โรงเรียนได้ และเราได้เห็นหน้าตาเด็กน้อย คุณครู ยิ้มแย้มมีความสุข ใส่ชุดใหม่ มันเป็นรอยยิ้มที่เน็มใบหน้าไปหมดเลย มันเลยเซอร์ไพรส์มากกว่า ที่เราได้ให้คนอื่นในวันเกิด มันมีค่ามากที่สุดสำหรับก้อยค่ะ"
นอกจากเซอร์ไพรส์วันเกิดยังมีอะไรให้อีกไหม ?
ตูน : "ไม่มีครับผม "
ถามถึงทริปที่ฮ่องกงหน่อย ?
ตูน : "มันเป็นทริปที่เราได้ดูวงที่เราชอบด้วย และวันเกิดเขาด้วยก็เลยไปกินข้าวฉลอง ไปดูคอนเสิร์ตและไปไหว้พระ เพราะเขาชอบไหว้พระมาก"
ก้อยขออะไรเป็นพิเศษไหม ?
ก้อย : "ก็ขอปกติเหมือนทุกปีที่ขอค่ะ เราไปกันสองคน พอเสร็จคอนเสิร์ตก็ไหว้พระตามวัดต่าง ๆ พอเราได้ไปอยู่ตรงนั้น เราก็ไหว้ จริง ๆ เขามีบางอย่างที่เขาให้เราแล้วเราประทับใจมาก แต่ว่าเขาน่าจะเขิน ทริปนี้ไปแต่ 2 วัน แล้วก็กลับมาค่ะ จริง ๆ พี่ตูนไปดูคอนเสิร์ตแล้ว ใกล้ช่วงวันเกิดก้อยพอดี ก็เลยบอกพี่ตูนว่าขอไปไหว้พระเลยแล้วกัน"
ถามถึงดราม่าที่บางสะพาน หลังจากที่มีคนขอพี่ตูนถ่ายรูป แต่ไม่ได้ถ่าย เพราะในขณะนั้นตูนยังไม่สะดวกเลยถูกมองว่าหยิ่ง จนพี่ตูนต้องเข้าไปกราบขอโทษ และยังมีข่าวว่าพี่ตูนร้องไห้ เพราะเสียใจกับเหตุการณ์นี้ ?
ตูน : "อ๋อ...คือผมมองข้ามเรื่องพวกนี้อยู่ตลอดเวลานะครับ ไม่พูดดีกว่า ผมว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก ผมคิดว่าเราทำทุกอย่างด้วยใจจริงอยู่แล้ว เราคิดว่าเราทุ่มเททุกวินาทีในสิ่งที่เราตั้งใจทำทั้งบนเวทีและล่างเวที ถ้ามันจะใครที่ได้มากได้น้อยก็เป็นธรรมชาติ เราพยายามเข้าใจมากกว่าครับ"
ก้อย : "ก้อยขออนุญาตพูดได้ไหมคะ เพราะว่าก้อยอยู่ในเหตุการณ์ อยากจะขอโทษ หากทำให้รู้สึกไม่ดี เพราะจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่เขายกเค้กมาเซอร์ไพรส์ก้อย แล้วพี่ตูนกำลังร้องเพลงให้เด็ก ๆ กำลังร้องเพลงอยู่ แล้วเหมือนพี่ตูนจะเข้ามาแสดงความยินดีกับเรา อยากจะอยู่ในโมเมนต์ที่เรามีความสุข และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนั้นไม่ใช่ไม่เต็มใจหรืออะไร พี่ตูนไม่เคยไม่เต็มใจ ไม่เคยปฏิเสธคนที่รักเขาเลยค่ะ เพียงแค่จังหวะตรงนั้นเขาอาจจะทำอย่างอื่นอยู่ เขาอาจจะยังไม่พร้อม ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เขารู้สึกแบบนั้น ก้อยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และมั่นใจได้ว่าพี่ตูนไม่มีทางที่จะไม่เต็มใจเลยค่ะ"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ