ฆ่าโหดทุบหัวแม่ม่ายดับ โยนลูกสาว 4 ขวบจมโคลนสาหัส
(25 ม.ค.) พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุจากหน่วยกู้ชีพ 1669 โรงพยาบาลกมลาไสย ว่าพบศพหญิงนอนเสียชีวิตในสภาพที่บริเวณใบหน้าและศีรษะถูกทุบจนเสียชีวิต และยังพบเด็กหญิงที่ถูกทำร้าย สภาพอาการสาหัส ที่คาดว่าจะเป็นบุตรของผู้ตาย ซึ่งมีพลเมืองดีช่วยเหลือไว้ จึงได้รายงานไปยัง พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กลาไสย เพื่อรายงานไปยัง พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ
ที่เกิดเหตุอยู่ติดกับถนนสายยางตลาด-ร่องคำ ปากทางเข้าบ้านสว่าง หมู่ที่ 9 ตำบลหลักเมือง อำเภอกมลาไสย เจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ สภาพศพที่บริเวณใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนเสียชีวิต ห่างไปพบ รถจักรยานยนต์ สกู๊ปปี้ไอสีฟ้าคาดขาว ตกอยู่ในคลองชลประทาน บริเวณตัวถังรถเต็มไปด้วยรอยเลือด
จากการตรวจสอบทราบชื่อ ผู้ตายคือ นางปวีณา อายุ 35 ปี ส่วนเด็กหญิง ทราบชื่อคือ ด.ญ.อภิญญา อายุ 4 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้ตาย ซึ่งถูกตีและโยนลงไปในโคลนริมทุ่งนา โดยทีมกู้ชีพโรงพยาบาลกมลาไสยกำลังช่วยชีวิตแต่เนื่องจากอาการสาหัสได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
จากการสอบถามนายทนงค์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์คนแรก เล่าว่า ในช่วงเวลาประมาณ 03.30 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะออกจากหมู่บ้านซึ่งต้องผ่าบริเวณจุดนี้ร่วมกับแฟนสาว จนมาถึงที่บริเวณเกิดเหตุปรากฏว่าน้ำมันในรถหมด จึงจอดอยู่บริเวณศาลา
แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนเหมือนจะเป็นเสียงแมว แต่ก็เหมือนกับเด็กทารก จึงได้ใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดูไปรอบๆ จนส่องไปที่บริเวณคันนา ซึ่งมีโคลนตมก็ปรากฏเห็นเด็กผู้หญิงนอนอยู่ในสภาพนอนหงาย โดยที่น้ำกำลังจะท่วมจมูก จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือและได้นำตัวขึ้นมาเช็ดตัว
ซึ่งระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นที่บริเวณศีรษะของเด็กบวมโตจึงได้แจ้งไปยัง 1669 โรงพยาบาลกมลาไสย ซึ่งเวลาก็ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง จึงได้มา ซึ่งในที่แรกคิดเพียงว่าคงมีคนนำเด็กมาทิ้ง แต่ระหว่างที่รถกู้ชีพกำลังจะเดินทางกลับ แสงไฟหน้ารถก็สาดไปเห็นศพหญิงที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม หน่วยกู้ชีพจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยยังพบรถจักรยานยนต์ถูกทิ้งลงในคลองชลประทานอีกด้วย
เบื้องต้น จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพเป็นชาวนาและในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะมีปากเสียงอย่างรุนแรกกับชาวนาด้วยกัน จากปัญหาการแย่งชิงน้ำทำนาปรัง เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เปิดปิดน้ำ จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีความแค้น
จนมาในช่วงเย็นที่คาดว่าผู้ตายอาจจะเข้ามาเปิดน้ำเข้าพื้นที่นาโดยมากับลูกสาว ก็มาดักตีเข้าที่บริเวณศีรษะจนเสียชีวิต ส่วนบุตรสาวผู้ตายก็ถูกตีและอาจจะคิดว่าเสียชีวิตแล้วจึงได้โยนร่างลงไปบริเวณคันนาที่มีน้ำและโคลน
ทั้งนี้ มีรายงานว่าเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.กลาไสย พร้อมชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบพื้นที่
เบื้องต้น ทราบว่าสายสืบได้ทำการจับกุมตัวชาวนาผู้ต้องหาเอาไว้แล้ว 2 คน โดยผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี ในการสืบสวนทราบว่ามีชายหนุ่มมาติดพัน จึงได้ตั้งปมการตายแยกเป็น 2 กรณี คือ 1.เรื่องฆ่าชิงน้ำทำนาปรัง 2.ชู้สาว ที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด