เปิดใจหนุ่มนิติ หวังปลุกกระแสผลิตเบียร์เสรี “ผมอยากมีเบียร์เป็นแบรนด์ของตัวเอง”

“เหมือนหลายๆ อย่างในประเทศไทยอาจหมุนช้า ประเทศส่วนใหญ่เขาให้สิทธิ์ประชาชนทำในการทำโฮมบรูว์แล้ว ซึ่งบางประเทศให้มาก บางประเทศให้น้อย แตกต่างกันไป โดยหวังว่ามันอาจช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจและพัฒนาการท่องเที่ยว” นี่คือความคิดเห็นของนายเท่าพิภพ บัณฑิตนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ผู้ที่กำลังตกเป็นข่าวจากกรณีที่ถูกตำรวจสรรพสามิตและตำรวจนนทบุรีเข้าไปจับกุมตัว หลังเขาต้มเบียร์และหมักเบียร์ เพื่อเตรียมที่จะทำออกมาจำหน่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย  ขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมา เมื่อสังคมมีการออกมาเคลื่อนไหวแล้วว่า ถึงเวลาหรือยังที่สังคมไทยจะเปิดโอกาสให้มีธุรกิจรายย่อยผลิตเบียร์จำหน่ายประชาชน? โดยเว็บไซต์ Change.org ได้เปิดให้ประชาชนที่เห็นด้วยร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ 

นายเท่าพิภพ เปิดใจผ่านรายการ “เป็นเรื่อง เป็นข่าว” ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่ตนเป็นคนที่ชอบทานเบียร์ ก็เลยศึกษาวิธีการทำผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงเริ่มทำมาเรื่อยๆ และวันหนึ่งมันก็เกินเลยจนกลายเป็นเช่นนี้ ซึ่งความจริงแล้วตนไม่ได้เปิดร้านขายเบียร์ แค่ทำมาให้เพื่อนชิมเท่านั้น ซึ่งวันที่เกิดเรื่อง ตนได้ทำเบียร์ไว้กินสังสรรค์กับเพื่อน เหมือนเป็นงานปาร์ตี้ อีเว้นท์ ไม่ได้ตั้งใจจะขายเบียร์หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม ซึ่งตนก็ยอมรับว่ามันผิดตามกระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้ก็ได้ไปขึ้นศาลเรียบร้อยแล้ว รอลงอาญา เสียค่าปรับ แล้วก็โดนปล่อยตัวออกมา ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเสรีภาพนี้หอมหวานมากกว่าเบียร์อีกครับ

“ผมเริ่มจากการดื่มครับ ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป คือดื่มจนไม่มีความรับผิดชอบ จนวันหนึ่งก็เริ่มหลงรักรสชาติของเบียร์ที่ทำเอง ด้วยราคาเบียร์ที่มันแพงขึ้น ก็เลยเริ่มจากการศึกษา เริ่มดื่มเอาความสุขเอาคุณภาพ ก็เลยหลวมตัวลึกมาก ก็เลยทำเบียร์เองครับ และผมก็พยายามบอกคนรอบตัวของผมว่าการดื่มเบียร์เราควรดื่มอย่างไรให้โอเค เบียร์มันมีสไตล์ไหนบ้าง มันก็เลยเป็นเรื่องที่สนุก คือจริงๆ มันก็เป็นความฝันผมครับ ถ้าผมมีพันล้านผมก็สามารถทำเบียร์ที่ถูกกฎหมายได้ แล้วใครมีบ้างอ่าครับ คือมันก็เป็นความฝันครับ ที่ผมอยากทำ ผมก็แค่พยายามทำตามความฝัน คืออยากมีเบียร์เป็นแบรนด์ของตัวเอง” นายเท่าพิภพ กล่าว

สำหรับการผลิตเบียร์ขึ้นมาเองนั้น นายเท่าพิภพ กล่าวว่า หลายคนอาจไม่อยากจะทำเป็นอาชีพ แต่ตนคิดว่าการทำอะไรด้วยตัวเอง การทำผลิตเบียร์ขึ้นมาดื่มเอง เป็นสิ่งที่ทุกคนพอจะทำได้ คิดว่าเขาจะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ ซึ่งคุณพ่อของตนภูมิใจมาก เพราะครอบครัวของตนจะสอนในเรื่องของการดื่มอยู่แล้ว คุณพ่อของตนเป็นศิษย์เก่าที่ประเทศเยอรมัน เพื่อนคุณพ่อที่เยอรมันจะชอบพาไปกินอาหารไปดื่มตามเมืองหรือหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยว เป็นเอกลักษณ์ วัฒนธรรมของประเทศนั้น ตนเลยถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก แล้วคุณพ่อก็สนุบสนุน เลยต้องขอบคุณคุณพ่อ

 “แต่ความฝันของผมมันก็เป็นไปได้ยาก ทุกอย่างเป็นเรื่องของกฎหมาย ในฐานะนักกฎหมาย ผมรู้สึกว่าตัวกฎหมายเอง คือ พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 เป็นกฎหมายเทคนิค มีมาแล้ว 50 หรือ 60 ปี ซึ่งบริบทของสังคมตอนนั้นกับตอนนี้มันอาจแตกต่างกันไปแล้ว ดังนั้นผมเห็นว่าทุกคนต้องมาคุยกันใหม่อีกครั้ง” นายเท่าพิภพ กล่าว