นักภาษากายวิจารณ์ “ทรัมป์เมินเมีย” “คู่นี้อึมครึมและเย็นยะเยือกอย่างมาก”

เว็บไซต์ The Independent ของอังกฤษ เสนอบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระแสที่มีต่อ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯ ที่ยังคงร้อนแรง แม้พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นลงแล้วก็ตาม

แต่ นายทรัมป์ยัง คงถูกจับตามองถึงพฤติกรรมของตัวเองเมื่ออยู่กับ “นางเมลาเนีย ทรัมป์” ภรรยา และสุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่ปรากฏออกสู่สายตาผู้ชมผ่านช่องโทรทัศน์ต่าง ๆ ในช่วงงานพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายหลายคนได้วิเคราะห์พฤติกรรมความสัมพันธ์ของครอบครัวนายทรัมป์ว่า บรรยากาศระหว่างสามีภรรยาคู่นี้มีความอึมครึมและเย็นยะเยือกอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับคู่ของนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนางมิเชล โอบามา ภรรยา

นางซูซาน คอนแสตนทีน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายและทนายความชื่อดัง บอกกับเว็บไซต์ Mic ว่า “ฉันมองไม่เห็นความอบอุ่น หรือ ความรักจริง และความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ ในความสัมพันธ์ของพวกเขา ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม”

ด้าน นางแพทตี้ วู้ด ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายอีกคนหนึ่งบอกว่า “ช่วงที่พวกเขาเต้นรำด้วยกันภายในงานฉลองการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น แสดงให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ที่ไร้ซึ่งสมดุล ขณะที่นายทรัมป์ดึงเธอให้ขยับเข้าหาเล็กน้อย เพื่อที่จะเต้นรำร่วมกันนั้น มันดูเหมือนว่า เธอไม่ต้องการที่จะเป็นคู่เต้นรำกับเขา”

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายยังได้อธิบายพฤติกรรมของนายทรัมป์ในช่วงเริ่มต้นงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านเมล ออนไลน์ว่า “ช่วงเวลาที่นายทรัมป์ออกมาจากรถ แทนที่จะหันไปช่วยภรรยาที่กำลังก้าวลงจากรถในอีกฝั่ง หรือรอเธอรวมถึงคอยเฝ้าระวังหลังให้เธอ เขากลับเดินมุ่งมาที่บันได เพื่อจับมือนายโอบามา”

นางคอนแสตนทีน บอกอีกว่า “หากคุณไม่รู้ว่าพวกเขาแต่งงานกัน คุณก็จะไม่รู้ว่าพวกเขาแต่งงานกัน” ซึ่งหมายความว่า พฤติกรรมของนายทรัมป์ที่มีต่อภรรยานั้น มีแต่ความห่างเหินและไม่ใส่ใจ ซึ่งแตกต่างจากสามีภรรยาคู่อื่นที่แสดงออกถึงความรักและห่วงใยอย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน กล้องของช่างภาพยังสามารถจับภาพของนายทรัมป์ระหว่างการร่วมงานฉลองพิธีสาบานตน โดยนายทรัมป์หันไปมองภรรยาที่เดินตามมาด้านหลังเพียงแวบเดียวเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับนายโอบามานั้น มีความแตกต่างอย่างชัดเจน กับการต้อนรับภรรยาที่เดินขึ้นมาบนเวทีอย่างอบอุ่น

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบแคมเปญเลือกตั้ง นายทรัมป์ถูกพูดถึงในสังคมวงกว้างและเกิดกระแสต่อต้านมาโดยตลอด เนื่องจากพฤติกรรมการปฏิบัติต่อผู้หญิงในเชิงเหยียดเพศ และยังมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงเหยียดเพศจนกลายเป็นประเด็นมาแล้วหลายครั้ง จนเกิดการชุมนุมประท้วงในชื่อว่า Women’s March โดยมีนักแสดงชื่อดังในวงการฮอลลีวู้ดมาร่วมอย่างมากมาย