ศาลญี่ปุ่นสั่งกักตัว "รองอธิบดี" ฉกรูปภาพ 10 วัน
ศาลญี่ปุ่นมีคำสั่งกักตัวรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเวลา 10 วัน รอไต่ส่วนคดี หากพิจารณาว่ามีความผิด อาจติดคุกยาวถึง 10 ปี ด้านโซเชียลมีการแชร์ภาพวาดต้นเหตุ แต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นการแชร์มั่ว
รายงานข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แจ้งความคืบหน้าล่าสุดให้กระทรวงการต่างประเทศทราบว่า ศาลญี่ปุ่นตัดสินรับพิจารณาคดีของนายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ก่อเหตุขโมยภาพเขียนมูลค่า 15,000 เยน จากโรงแรมในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น แล้ว โดยให้ควบคุมตัวนายสุวัฒเป็นเวลา 10 วัน เพื่อรอการไต่สวนคดี ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเกียวโตจึงพานายสุภัฒกลับไปควบคุมตัวต่อที่สถานีตำรวจนากาเงียว เมืองเกียวโต
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกียวโตแจ้งว่าผู้บริหารของโรงแรมที่เกิดเหตุมีท่าทีค่อนข้างเป็นบวก และไม่อยากให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ดังนั้น อัยการและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเกียวโต พร้อมด้วยผู้บริหารโรงแรมดังกล่าว จะไปพูดคุยกับนายสุภัฒ ที่สถานีตำรวจนากาเงียว ในวันนี้ (27 ม.ค.) โดยยินยอมให้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโอซากา เข้าร่วมฟังการหารือดังกล่าว
ซึ่งเจ้าหน้าที่กงสุลไทยจะได้ถือโอกาสนี้พูดคุยสอบถามรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นจากตัวนายสุภัฒด้วย หากนายสุภัฒยินยอมขอโทษแสดงความสำนึกผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับยอมชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะมีการเจรจาพร้อมร้องขอต่อศาลให้ปล่อยตัวนายสุภัฒเพื่อส่งกลับประเทศไทยก่อนที่วีซ่าของนายสุภัฒจะหมดอายุ
มีรายงานด้วยว่า นายสุภัฒได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกจับกุมว่าไม่ให้แจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ขณะเดียวกัน ครอบครัวของนายสุวัฒที่เมืองไทยก็ไม่ได้ร้องขอทางกระทรวงฯ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปเยี่ยมนายสุภัฒที่ญี่ปุ่นเช่นกัน
เมื่อถามว่าคดีนี้ถูกมองว่าเป็นคดีอาญา ไม่น่าจะสามารถยอมความได้ แหล่งข่าว กล่าวว่า ตามกฎหมายของญี่ปุ่น คดีดังกล่าวแม้เป็นคดีอาญา แต่หากฝ่ายผู้เสียหายต้องการให้ผู้ก่อเหตุชดใช้ค่าเสียหายแล้วจะไม่ติดใจเอาความ ศาลก็สามารถพิจารณาให้ปล่อยตัวบุคคลนั้นได้ อย่างไรก็ตามหากนายสุภัฒ ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นแล้วถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี