พระมหาไพรวัลย์ ฝากให้คิด ดราม่าใส่ซองงานแต่งน้อย
![พระมหาไพรวัลย์ ฝากให้คิด ดราม่าใส่ซองงานแต่งน้อย](http://s.isanook.com/ns/0/ud/432/2160686/2.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊กของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งถูกเจ้าสาวส่งการ์ดงานแต่งคืน พร้อมกระดาษโน๊ตระบุว่า "พี่ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่มีขนาดนี้ บอกพี่ได้ พี่ให้เป็นของขวัญ สำหรับการเริ่มงานใหม่"
ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวก็แสดงความไม่เข้าใจ เนื่องจากเธอไปช่วยงานแต่เช้า ทั้งค่าชุด ค่าน้ำมันรถ เงินใส่ซองเท่านี้ก็ถือว่ามากแล้ว เพราะเธอสามารถใช้เงินดังกล่าว กินข้าวได้ถึง 2-3 วัน ทั้งยังถูกเจ้าสาวลบออกจากการเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กอีกด้วย
ล่าสุด (30 ม.ค.) เฟซบุ๊กพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "เรื่องนี้จะพูดให้ซีเรียสก็ได้ เพราะอาตมาเห็นว่ามันเริ่มกลายเป็นค่านิยมแย่แย่ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมองกันแบบนี้ไปเสียหมดแล้ว คือจัดงานแล้วก็หวังแต่จะต้องได้เงินจากคนที่มาร่วมงาน หรือจัดงานแล้วก็กลัวว่าตัวเองจะขาดทุน
ครั้งหนึ่งอาตมาเคยคุยกับโยมแม่ เรื่องไปช่วยงานคนอื่น เวลามีคนเอาซองมาเชิญไปงาน แกก็จะต้องเปิดดูสมุดที่เขียนไว้ ว่าคนคนนี้เขาเคยใส่ซองมางานเราเท่าไหร่ เวลาเราไปช่วยงานเขา ก็ต้องใส่คืนเท่านั้น หรือมากกว่านั้น แล้วแกก็บ่นว่า ทำไงดี ไม่มีเงินจะไปช่วยงานใช้เขา
อาตมาก็เลยบอกว่า คิดแบบนี้ก็แย่สิ เกิดมีคนใส่ซองมางานเรา 5000 เราไม่ต้องหาเงินไปช่วยงานเขาเป็นหมื่นหรอ เราจะไปเอาเงินที่ไหน แล้วคนแต่ละคนฐานะมันเท่ากันหรอ บางคนมีเงินบางคนไม่มีเงิน จะไปหวังให้เขาต้องใส่ซองมาช่วยงานเท่านั้นเท่านี้ได้ยังไง
คือเรามีแค่ 100 เราก็ช่วย 100 ใครมันจะใส่ซองมางานเรา 500 ก็เรื่องของมัน นั่นแสดงว่ามันมีเงิน แต่เราไม่มี ถ้าใส่ 100 แล้ววันหลัง เขาจะไม่มาช่วยงานเรา ก็ไม่ต้องให้มันมา
คือทุกวันนี้ แทนที่การได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน จะเป็นเรื่องของการให้เกียรติกัน การเห็นแก่ความเป็นคนรู้จักนับถือ การได้ไปช่วยหยิบจับ ทำโน่นทำนี่ ซึ่งเป็นเรื่องของการเห็นแก่น้ำใจและอาทรต่อกัน ดั่งคนที่เป็นญาติมิตร กลับกลายเป็นเรื่องของการหวังแค่น้ำเงินไปซะหมด
กลายเป็นเรื่องของการจัดงานเพื่อสร้างความลำบากใจให้กับคนที่รู้จัก เดี๋ยวนี้คนมาบอกให้ไปร่วมงานที เอาการ์ดมาเชิญที แทนที่จะเป็นเรื่องของการร่วมยินดี ที่เพื่อนบ้านมีงานบุญ กลายเป็นต้องมานั่งคิดนั่งเครียดว่าจะหาเงินที่ไหนไปช่วยงานเขา ก็เท่านั้น
สมัยก่อนไม่มีเงิน ก็ยังไปช่วยงานได้ ช่วยล้างถ้วยล้างชาม ยกนั่นยกนี่ คนรู้จักกัน ไม่มีเงิน ก็ยังให้เกียรติมาบอกมาเชิญ สมัยนี้ลองไม่มีเงินไม่มีซองไปสิ เจ้าภาพแทบจะไม่ต้อนรับเลย ไม่มีเงิน ถึงเป็นคนรู้จัก บางทีก็แกล้งไม่เชิญ เพราะรู้ว่า บ้านนี้ไม่มีเงินใส่ซอง แบบนี้ก็มี"