ปุยฝ้าย รักแฮปปี้ แม็ค ควงเที่ยวยุโรป 14 วัน บอกรักกันตลอด
บอกได้เลยว่าความรักตอนนี้เป็นอะไรที่ลงตัวมาก สำหรับคู่ของ "ปุยฝ้าย ณัฏฐพัชร" และ "แม็ค วีรคณิศร์" เพราะตั้งแต่กลับมารีเทิร์นรักกันอีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะลงตัวขึ้นกว่าเก่า แถมล่าสุดสาวปุยฝ้ายยังออกมาเม้าท์มอยทริปหวานให้เราฟังด้วยว่า หวานใจหน้าหล่อเพิ่งจะพาบินลัดฟ้าไปเที่ยวยุโรปส่งท้ายปี 5 ประเทศ 14 วัน เท่านั้นไม่พอยังคอยดูแลเทคแคร์เอาอกเอาใจทุกอย่างเต็มที่
ส่วนแพลนวิวาห์มีคิดไว้บ้างหรือไม่นั้น เจ้าตัวเผยว่าไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องรีบเร่งอะไร เพราะอยากขอให้หลายๆ อย่างพร้อมกว่านี้ก่อนดีกว่า และที่สำคัญตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังมีหน้าที่การงานให้รับผิดชอบค่อนข้างเยอะด้วย...
ล่าสุดไปเที่ยวยุโรปมา 14 วัน ?
"ไปทริปยุโรปค่ะช่วงปีใหม่ จริงๆ ตั้งใจจะไปเที่ยวกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปนานขนาดนี้ พี่แม็คเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างหมดเลย ตอนแรกก็ตกใจตอนที่พี่เขาบอกว่าจะไป 14 วัน เพราะว่าไปนานมาก แต่ก็โชคดีตรงที่พี่เขาเก่งเรื่องการหาตั๋วหาที่พักมันก็เลยค่อนข้างถูก สำหรับทริปนี้เราก็ไปกันสองคนล้วนๆ เลย"
หวานมากไหมสำหรับทริปนี้ ?
"แฟนคลับชอบถามว่าทำไม่มีรูปคู่เลย อันนี้เป็นเพราะว่าเราผลัดกันถ่ายรูปค่ะ จริงๆ พี่แม็คเขาก็ซื้อขาตั้งกล้องไปนะ แต่บังเอิญว่าเขาไปซื้อเลนส์ใหม่ซึ่งเป็นเลนส์ฟิกมันก็เลยค่อนข้างถ่ายยาก พอตั้งกล้องแล้ววิ่งเข้าเฟรมมันก็ไม่ชัดแล้ว แต่ทริปนี้ต้องขอบคุณพี่แม็คนะคะเพราะว่าเขาดูแลดีมาก"
เขาออกค่าตั๋วให้เราหมดเลยไหม ?
"ไม่ออกสิคะ (เสียงสูง) คือจริงๆ แล้วตั้งแต่รู้จักกันมาคบกันมาเราก็ไปเที่ยวนู่นนั่นนี่ด้วยกัน ซึ่งฝ้ายก็ทำข้อตกลงเลยว่าไม่ต้องออกให้ฝ้ายนะเพราะว่าวัยเราใกล้กันมาก เขาเองก็กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวฝ้ายเองก็เหมือนกัน และการไปเที่ยวครั้งหนึ่งมันก็ไม่ใช่ถูกๆ"
14 วันสำหรับไปเที่ยวหมดเงินไปเท่าไหร่ ?
"ค่าเครื่องบินกับที่พัก 13 คืน หมดไป 40,000 กว่าบาท และเราก็มีพ็อคเก็ตมันนี่ไปอีกคนละ 50,000 บาท สรุปก็คือ 14 วันนั้นไม่เกิน 100,000 บาทค่ะ และเราก็ไปกัน 5 ประเทศ คือเราบินตรงและก็ใช้วิธีเช่ารถขับด้วยมั้งมันก็เลยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย"
ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 14 วัน เป็นยังไงบ้าง ?
"เราไปช่วงโลว์ซีซั่นของที่นั่นซึ่งมันหนาวมาก ก็เลยทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาเสียสละ อะไรก็ตามที่เราไม่ไหวเขาก็ช่วยทำให้หมด เช่นเราต้องการกินน้ำแต่ไม่อยากลงไปซื้อเพราะว่าอากาศหนาว เขาก็เป็นคนลงไปซื้อให้ หรือเวลาเติมน้ำมันทั้งๆ ที่เราทำไม่เป็นทั้งคู่ แต่เราก็ไม่ลงไปช่วย นั่งเป็นคุณนายสวยๆ อยู่บนรถ และเราไปช่วงปีใหม่ก็ต้องมีโมเม้นท์ไปเค้าท์ดาวน์ ซึ่งเขาก็ถามนะว่าไปปารีสด้วยกันนะเพราะว่าที่นั่นสวย แต่พอถึงวันที่ 31 หนูเกิดรู้สึกหนาวขึ้นมา หนูก็เลยเปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า อยู่บ้านกินส้มตำแล้วนอน ซึ่งเขาก็อ้อนนะบอกว่าไปหน่อยไหมอุตส่าห์มาทั้งทีแต่เราก็ไม่ไปค่ะ คือเขาตามใจเรามากๆ"
ทริปนี้เราเห็นอะไรในตัวเขามากขึ้นไหม ?
"พี่แม็คไปรอบนี้ดีขึ้นมากเลย ปกติเขาจะเป็นผู้ชายที่ไม่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าครั้งนี้เขาแสดงออกว่ารักเรามากขึ้น เมื่อก่อนเขาจะนิ่งๆ เย็นชา แต่ครั้งนี้เขากลับบอกว่ารักเรามาก คือบอกรักทุกๆ ที่ๆ เราไปด้วยกัน"
รักกันมากขนาดนี้จะแต่งงานเลยไหม ?
"เรื่องแต่งงานเราเคยคุยกันไว้ว่าเอาไว้ให้พี่แม็คอายุ 33 และฝ้ายอายุ 32 ก่อนดีกว่า ซึ่งตอนนี้พี่แม็คเขาก็ 31 แล้ว อาจจะใช้เวลาอีกสัก 2-3 ปี คบกันไปก่อน แต่ทั้วนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ได้ระบุว่าจะต้องแต่งกันเมื่อไหร่ คือเอาที่พร้อมเป็นหลัก ไม่ต้องดูที่อายุหรอก เพราะทุกวันนี้จริงๆ เราก็ไม่ได้หวานขนาดนั้น คือรูปคู่ที่เห็นอาจจะดูหวาน แต่ว่าปกติแล้วเราใช้ชีวิตกันเหมือนเพื่อน ถามว่าตอนนี้เราอยากแต่งงานไหม เอาจริงๆ ก็ยังไม่อยากนะเพราะยังทำงานกันเยอะอยู่ ซื้อบ้านให้แม่ ทำนู่นทำนี่ให้ครอบครัวให้ตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าถ้าแต่งงานไปงานการมันก็ต้องเปลี่ยน อาจจะไม่ได้บทที่สวยแซ่บอะไรมากมายแล้ว เพราะเราคงต้องเกรงใจซึ่งกันและกันด้วย แต่ตัวพี่แม็คเองจริงๆ เขาก็เคยพูดนะว่าอยากแต่ง แต่อย่างที่บอกเราต้องทำตัวให้พร้อมก่อน ฉะนั้นเราก็เลยยังไม่รีบ"
มั่นใจไหมว่าคนนี้ใช่เลยสำหรับเรา ?
"ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่เกิดปัญหาเขาดีขึ้นเยอะมาก และก็มีคำมั่นสัญญาบางอย่างที่ทำให้ฝ้ายรู้สึกได้ว่าเป็นคนดีแล้ว หลังจากนี้คือทำทุกวันให้ดีต่อไป ถามว่าคือคนนี้ไหมที่เราเลือก ก็คือคนนี้แหละ แต่อะไรๆ มันก็ต้องดูต่อไปเรื่อยๆ"
ยังมีสาวๆ กล้าเข้ามายุ่งอยู่อีกไหม ?
"ถ้าเขากล้ามาก็ลองดู ถ้ากล้าก็เก่งอ่ะ หมายถึงถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่ามีแฟนแล้วก็ยังเข้ามา หรือคนของเราก็ยังไปเล่นกับเขาด้วย ฝ้ายก็ขอเชิญเลยค่ะ"
เราเคยคุยเรื่องนี้กับแม็คบ้างไหมหลังจากที่เกิดปัญหา ?
"คุยค่ะ เรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้ชัด ซึ่งเราก็คุยว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้หลังจากที่เลิกกันไป แต่ถ้าจะกลับมาคุยกันมันต้องไม่มีเรื่องแบบนี้อีก ถ้ารู้สึกว่าเรายังหนุ่มเรายังใช้ชีวิตได้อีกก็ไป และก็ปล่อยเราไป คือเรายังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าคิดจะกลับมาแล้วต้องไม่มี ฝ้ายไม่เคยเช็คโทรศัพท์เขาเลย"
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรากลับมาเชื่อใจเขาอีกครั้ง ?
"จริงๆ ต้องบอกว่า ช่วงที่เลิกกันไปเราก็ได้เรียนรู้คนอื่นๆเหมือนกัน แล้วเราก็เห็นว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ดีที่สุดในชีวิต อาจจะมีเรื่องที่พลาดไป ครั้งแรกเราให้อภัยได้ การที่จะกลับมาคบกัน แล้วเรายังทู่ซี้คบกันทั้งทั้งที่ไม่มีความสุข ยังไม่ให้อภัยเต็มร้อย เราก็เลยขอให้เขาไปขอขมาพ่อแม่เรา 2 ไปรับศีลเหมือนที่เรารับ ซึ่งมันก็เหมือนกับเป็นการสาบานว่าจะไม่เจ้าชู้ พี่แม็คเขาก็ทำทั้งหมด นอกเหนือจากนั้นเราเองก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ เพราะจากที่คบกันมาเขาก็ไม่ใช่คนไม่ดีก็รอดูกันไป เรื่องแบบนี้วงการไหนๆ มันก็มีทั้งนั้น ส่วนหลังจากนั้นมันจะมีสาวๆ เข้ามาบ้างไหม เราก็ไม่รู้หรอก เพราะฝ้ายไม่ได้เช็ค แต่ฝ้ายก็เชื่อเสมอว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีฝ้ายจะรู้เอง สัญชาตญาณเราแม่นมาก อย่างตอนนี้กลายเป็นฟรีแลนซ์ทำงานหลายที่มากก็จะมีผู้หวังดีมาบอกเยอะแยะ ซึ่งฝ้ายก็บอกว่าไม่เป็นไรเอาเถอะ"
ที่บอกว่ารับศีลเลิกเจ้าชู้ อันนี้คือเป็นการทำพิธีจริงจังเลยไหม ?
" จริงจังค่ะอันนี้เขาเรียกว่าเป็นพิธีรับศีล เป็นการรับศีลตลอดชีวิต ซึ่งฝ้ายก็รับก่อนเขานานแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อนที่เราคบกัน เรารู้สึกว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา เรารู้สึกว่าคนเราจะรักกันได้ต้องมีศีลเสมอกัน จริงๆ แล้วการรับศีลไม่ได้เป็นประเด็นหลักสำคัญ ของแบบนี้มันอยู่ที่การประพฤติตัวของแต่ละคน เพียงแค่อันนี้มันคือความอุ่นใจของเรามากกว่า ในที่สุดมันก็คือการใช้ชีวิตในอนาคตว่าจะเป็นยังไง แต่ ณ เวลานี้ ก็ขอบคุณเขาด้วย ที่ทำทุกอย่างให้ดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ดีขึ้นเรื่องผู้หญิง แต่ดีขึ้นในทุกๆ อย่าง"
แล้วพี่แม็คมีอะไรอยากให้เราเปลี่ยนบ้างหรือเปล่า ?
"มีค่ะ เรื่องความใจร้อน เพราะฝ้ายเป็นคนที่โผงผาง ใจร้อนมาก ซึ่งเขาก็จะคอยเตือนเสมอว่าบางทีเราไม่จำเป็น ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ซึ่งพอฝ้ายมามองตัวเองมันก็เป็นอย่างที่พี่เขาบอกจริงๆ ก็เลยพยายามปรับ ซึ่งตอนนี้เขาก็บอกว่าเราใจเย็นมากขึ้น"
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ