พบรถทัวร์ ต้องสงสัยฉกเงิน นทท. แอบทำช่องลับจากคนขับถึงห้องเก็บกระเป๋า

กรณีนักท่องเที่ยวชาวบราซิลและอิสราเอลรวม 5 คน ที่โดยสารรถทัวร์ป้ายหมวด 30 ออกจากย่านถนนข้าวสารเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ระหว่างทางเงินที่เก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระหายไปทั้งเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ เงินไทย และ เงินสกุลเชกเกอร์ของอิสราเอล รวมมูลค่ากว่า 9.4 หมื่นบาท 

ล่าสุดตำรวจพบรถทัวร์คันดังกล่าวจอดอยู่ในพื้นที่อู่ซ่อมรถ บริเวณทางแยกบ้านป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรอรับผู้โดยสารกลับกรุงเทพ จึงนำรถรวมทั้งคนขับและเด็กท้ายไปตรวจสอบ ที่สถานีตำรวจภูธรสารภี ขณะที่ผู้เสียหายทั้งหมดให้การยืนยันว่าเป็นรถคันที่โดยสารมาจริง

เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ารถมีการดัดแปลงช่องลับด้านหลังคนขับเพื่อมุดไปยังห้องเก็บสัมภาระได้  แต่คนขับและเด็กท้ายยืนยันว่าเป็นช่องปกติและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินนักท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งตำรวจยังไม่พบเงินของกลางด้วย  ขณะที่ตัวแทนบริษัทเอสโอที  ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายตั๋วโดยสารให้กับนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คนได้นำเงินมาชดใช้ให้กับผู้เสียหายเต็มจำนวน เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว 

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ คนร้ายเมื่อได้เงินนักท่องเที่ยวไปน่าจะมีเพื่อนร่วมแก๊งมารับเงินลงจากรถไประหว่างทาง ช่วงที่มีการจอดรถรับประทานอาหาร ซึ่งคนร้ายจะใช้เทคนิคขโมยเงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวไปบางส่วน เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวรู้ตัว  เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าว มีมากกว่า 20 คน บางคนอาจยังไม่รู้ว่า ถูกขโมยเงินไป แต่เมื่อไม่พบหลักฐานในการทำความผิด จึงยังไม่สามารถดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใดได้ อย่างไรก็ตามได้อายัดรถคันดังกล่าวไว้ให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจสอบว่ามีการดัดแปลงสภาพรถหรือไม่   รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบปากคำคนขับและเด็กท้ายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย  หลังจากนี้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวาดล้างจับกุมรถทัวร์โดยสารป้าย 30 ที่วิ่งรับผู้โดยสารผิดประเภทต่อไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ