แห่แชร์คำพิพากษาในอดีต คดีที่คล้ายกับกรณี..ลุงวิศวะ
โลกออนไลน์แห่แชร์คำพิพากษาของศาลฎีกาในอดีต เมื่อ 20 ปีก่อน เคยเกิดกรณีคล้ายๆ กับประเด็น เด็ก ม.4 ปะทะ ลุงวิศวะ กับคำตัดสินที่สุดของคดี
โลกออนไลน์ยังคงให้ความสนใจกรณีเหตุ นายปอน อายุ 17 ปี ถูก นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกร ยิงด้วยอาวุธปืนและเสียชีวิต เพียงเพราะทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ ประเด็นนี้ยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา
หลังจากที่มีคลิปจากกล้องหน้าของฝ่ายผู้ก่อเหตุออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชน ทำให้เกิดความเอียงเอนไปตามน้ำหนักหลักฐานที่ปรากฏออกมา หลายฝ่ายใช้วิจารณญาณมองว่าผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุไปเพียงเพราะการป้องกันตัว จากการถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มคนอีกฝ่ายจำนวนมาก แม้ว่าบางฝ่ายก็ยังเห็นว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุอยู่ดี
ขณะที่ชาวเน็ตบางกลุ่มก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องคดีความและช่องทางของกฎหมายที่ยังพอมีโอกาสได้รับความเป็นธรรมให้ทั้งสองฝ่าย ซึ่งล้วนแล้วอยู่กับดุลยพินิจของศาล เพจเฟซบุ๊ก คำพิพากษาศาลฎีกา ได้แชร์ข้อความตัวอย่างคดีในอดีตที่มีลักษณะคล้ายกับกรณีดังกล่าว
เรื่องราวของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5215/2539 คดีที่เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ถูกหยิบยกมาแชร์ในโลกออนไลน์ เนื่องจากบทสรุปและคำพิพากษาของศาลฎีกาครั้งนั้น ตัดสินใจของฝ่ายจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
คดีดังกล่าวผู้เสียชีวิตกล่าวคำให้ร้ายอาฆาตกับจำเลยและบุตร ก่อนจะมาหาจำเลยที่บ้าน จำเลยบอกให้อีกฝ่ายหยุด แต่ยังคงเดินตรงเข้ามาหาด้วยระยะห่างเพียง 5 วา พฤติการณ์ของผู้เสียชีวิตส่อถึงอาการมุ่งร้ายต่อชีวิตของจำเลยและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยมีความชอบธรรมที่จะป้องกันตัวเองตามสมควร
จำเลยมีอายุ 68 ปี อยู่ในวัยชรา ส่วนผู้เสียชีวิตอายุ 26 ปี เป็นชายฉกรรจ์ ในภาระเช่นจำเลยต้องประสบในขณะนั้นย่อมต้องเข้าใจว่า อีกฝ่ายคงต้องมีอาวุธติดตัวมาเพื่อจะทำร้าย ในโอกาสที่ไม่อำนวยให้จำเลยได้ตั้งสติไตร่ตรองไว้ก่อนว่าผู้เสียชีวิตมีอาวุธร้ายแรงแค่ไหน การที่จำเลยยิงปืนใส่ผู้เสียชีวิตเพียงนัดเดียว และผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตายนั้น จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแชร์คำพิพากษาในอดีตกรณีนี้ไป ปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจและส่งต่อออกไปเป็นวงกว้าง บางส่วนมองว่าแม้กรณีปัจจุบันจะมีความคล้ายกับคดีในอดีต แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ ส่วนแตกต่างกัน ต้องพิจารณาไปทีละส่วน โดยเฉพาะคดีล่าสุดนี้ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกันมาก่อน และยังไม่ทราบสาเหตุปมขัดแย้งที่แท้จริงอย่างแน่ชัด