ตร.สรุปคดีเซลล์แมน ยันเสพยาเกินขนาด ปัดอุ้มฆ่า
ตำรวจสรุปคดีเซลล์แมน ยันเสพยาเกินขนาดปัดอุ้มฆ่า - ขณะที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เตรียมฌาปนกิจศพวันจันทร์นี้ ที่ จ.สุพรรณบุรี
พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ นายรัติภูมิ พิมใจใส อายุ 34 ปี เซลล์เเมน หลังหายตัวไปในพื้นที่ สน. ตลิ่งชั่น เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 59 ก่อนพบว่าเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยแพทย์นิติเวชลงความเห็นสาเหตุการตายเสียชีวิต พบสารเสพติด "เมทแอมเฟตามีน" ในกระแสโลหิตจำนวนมาก ได้ทำลายการทำงานของระบบอวัยวะตับ ไต และกล้ามเนื้อสลาย ทำให้อวัยวะภายในร่างกายเสื่อม เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิต
พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่าวันนี้ประชุมชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน สน.ธรรมศาลา และ สน.บางกอก รายงานผลการทำคดี ได้ข้อสรุปว่า เหตุการณ์เสียชีวิตของ เซลล์แมน ว่า เกิดจากภาวะตับและไตล้มเหลวจากการการเสพยาเสพติดเกินขนาด ซึ่งตำรวจยึดตามหลักผลชันสูตรพลิกศพของโรงพยาบาลศิริราช
และจากการตรวจสอบประวัติยาเสพติดพบว่าผู้ตายเคยถูกจับคดียาเสพติดเมื่อวันที่ 13 สค. 2547 ที่จังหวัดสุพรรณบุรีและสอบถามเพื่อนผู้ตายถึงปัจจุบัน ก็พบว่าเสพยาเรื่อยมาจึงตัดประเด็นว่าถูกบังคับให้เสพยาทิ้งไป
ส่วนโซเชียลมีเดียได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องอุ้มฆ่า ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ว่าผู้ตายออกเพียงคนเดียว กรณีพบบาดแผลบนใบหน้า และข้อมือของผู้ตาย เจ้าหน้าที่เชิญ นายฐิติ ไกรรักษ์ อาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ที่ให้การช่วยเหลือผู้ตาย
ยืนยันว่า ผู้ตายมีการคุ้มคลั่ง จึงเข้าช่วยเหลือโดยใช้กุญแจมือล็อคข้อมือ และผู้ตายดิ้นและล้มทำให้มีบาดแผลบนใบหน้าและศีรษะ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยทำแผลเอาน้ำเกลือล้างและใช้ผ้าพัน จากนั้นนำตัวมาที่ สน.ตลิ่งชัน ไม่ถึง 10 นาที ผู้ตายมีอาการชักเกร็ง จึงรีบนำโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งขณะช่วยเหลือไม่พบเอกสารยืนยันตัว หรือ โทรศัพท์มือถือ จึงไม่ทราบว่าเป็นเซลล์แมนที่ปรากฏเป็นข่าว
ส่วนกรณีเพื่อนสาวแจ้งความว่าเงินหาย 7 หมื่นบาท และการตรวจสอบพบเงินในกระเป๋า เพียง 1 หมื่น 9 พันบาท ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจนำเงินที่ขโมยไปซื้อยาเสพติด มาเสพจนคุ้มคลั่ง โดยตำรวจจะสรุปสำนวนการเสียชีวิตของเซลล์แมนภายใน 30 วัน
ตำรวจได้รายงานผลให้ นายไพโรจน์ พิมใจใส ญาติผู้ตายทราบสาเหตุทั่งหมด โดยญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย และจะฌาปนกิจศพวันจันทร์นี้ ที่ จ.สุพรรณบุรี