เคน ภูภูมิ ไม่ปลื้ม! เกรียนคีย์บอร์ดลามปาม วิจารณ์นั่งตักแม่เอสเธอร์
ถูกโยงเข้าไปร่วมวงดราม่าแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับ "เคน ภูภูมิ" หลังแฟนสาวของเจ้าตัว อย่าง "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" เจอกระแสดราม่าชามใหญ่กรณีจิ้นแตก "ฌอห์ณ จินดาโชติ" จนเป็นเหตุให้มีชาวเน็ตบางกลุ่มเข้าไปโพสต์ข้อความต่อว่าเจ้าตัวรวมถึงสาวเอสเธอร์และคุณแม่หนักมาก ถึงขนาดลามไปโพสต์ข้อความแรงใต้ภาพที่หนุ่มเคนนั่งตักคุณแม่แฟนสาวจนกลายเป็นประเด็นดราม่าเรื่องใหม่สะเทือนวงการบันเทิง!!
ซึ่งล่าสุดขณะที่หนุ่มเคนเดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว "เปิดตัวบัตรเดบิตบาร์บี้ Barbie's GSB GEN CARD" เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสออกมาเปิดใจถึงกระแสวิจารณ์แรงดังกล่าวให้เราฟังว่า...
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"โอเคดี ก็ให้กำลังใจน้องอยู่เสมอ ทุกคนก็น่าจะได้เห็นสิ่งที่ชี้แจงไปหมดแล้ว แต่ยังไงรอฟังจากปากน้องเองน่าจะดีกว่า"
แต่ตามข่าวก็เหมือนเอสเธอร์เขายืนยันชัดเจนนะว่า เขาไม่ได้ไม่อยากร่วมงานกับฌอห์ณ ?
"รายละเอียดแต่ละคนเขาก็ออกมาชี้แจงเหตุผลกันแล้ว ก็ตามนั้นแหละครับ แต่ละคนก็ล้วนมีเหตุผล ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ปล่อยให้มันจบๆ ไปไม่ต้องมีอะไรดีกว่า แต่ถ้าคนไม่ชอบหรือไม่สบายใจก็ต้องขอโทษด้วย"
เราได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้บ้าง ?
"ไม่รู้เหมือนกันครับ ไม่ต้องมีบทเรียนหรอกมั้งครับ"
ตอนนี้มีคนแบ่งฝ่ายเป็นฝั่งนู้นฝั่งนี้ด้วย เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
"ไม่ต้องแบ่งหรอกครับเป็นเพื่อนกันดีกว่า ไม่ต้องมีพวกหรอก มีเพื่อนดีกว่า เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรักด้วยเรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่าครับ ถามว่าเครียดไหมกับข่าว ก็มีเครียดบ้างครับเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่เป็นไร ผมปล่อยให้มันจบๆ ไปดีกว่าอย่าไปทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ คือมันเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน และต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง"
อย่างตัวเราเองเวลาโพสต์อะไรลงอินสตาแกรม ก็มีคนเข้ามาโจมตีตลอด ?
"แล้วแต่คนจะมองครับ ถ้าหากผมทำอะไรให้ใครไม่สบายใจหรือไม่ชอบก็ต้องขอโทษด้วยครับ"
ล่าสุดแม่น้องก็โดนดราม่านี้เข้าไปด้วยเหมือนกัน ?
"ก็ให้กำลังใจอย่างเดียวครับ คุณแม่เขาก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว คนเราถ้าหากโดนมากๆ ก็ต้องรู้สึกเหนื่อยใจ ท้อ แต่ก็คอยเป็นกำลังใจให้คุณแม่เสมอ แม้แต่ตัวผมกับน้องเองพอโดนมากๆ มันก็มีบั่นทอนเหมือนกัน อย่างที่บอกแหละครับไม่ต้องมีพวกกันหรอก มาเป็นเพื่อนกันดีกว่า อย่าทะเลาะกันเลยมันไร้สาระ"
กับภาพดราม่าที่เรานั่งตักคุณแม่ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
"ผมรักแม่น้องเหมือนแม่ผมครับ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตใจคนมากกว่า คนที่มองแบบนั้นผมคิดว่าจิตใจไม่ค่อยดีนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ารักออก น่ารักจะตาย แต่คุณแม่ก็เครียดมากเหมือนกัน ผมเองก็เป็นห่วง กลัวท่านจะคิดมาก แต่ก็อย่างที่บอกไม่เห็นเป็นอะไรเลยใครๆ ก็นั่งตักแม่ทั้งนั้น และเราเองก็แค่เล่นๆ กันเพราะเราสนิทกันมาก ไม่ได้นั่งทั้งวัน นั่งแค่ 1-2 วินาทีเท่านั้นเอง"
คอมเม้นท์ประเด็นนี้ค่อนข้างรุนแรงเราได้อ่านไหม ?
"ก็ค่อนข้างที่จะล้ำเส้นเหมือนกันนะครับ แต่ก็อย่างที่บอกคนเราคิดไม่เหมือนกัน เขาอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ผมเป็นห่วงความรู้สึกของแม่เหมือนกัน ผมมองว่าเป็นเรื่องน่ารักลูกนั่งตักแม่มันก็ธรรมดานะครับ"
อยากจะบอกคนพวกนี้ยังไงบ้าง ?
"ไม่รู้จะบอกอะไรเขาดี ผมว่ให้เขาไปคิดใหม่เถอะครับ ผมไม่ได้ไปนั่งตักสาวที่ไหน แต่ผมนั่งตักแม่"
หลังจากนี้เราจะต้องระมัดระวังมากขึ้นไหม ในการโพสต์ภาพหรือการลงรูปกับแม่ เพราะคนก็มีหลายความเห็น ?
"ให้คนพวกนี้ไปคิดใหม่ดีกว่า เราก็อยู่ในโลกของเราที่คิดว่าน่ารักดี"
จะมีการฟ้องร้องไหมเพราะกรณีแบบนี้สามารถฟ้องร้องได้ ?
"ไม่ฟ้องหรอกครับ อาจจะเป็นช่วงๆ ผมลงตอนแรกๆ ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไรเลย"
ถ้าวันหนึ่งต้องร่วมงานกับฌอห์ณเราจะโอเคไหม ?
"ไม่มีปัญหาครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ และมันก็ไม่ควรจะเป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องเราก็ยังไม่ได้มีการเคลียร์กันหรือคุยอะไรกัน เพราะอย่างที่บอกมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เราต้องอะไรขนาดนั้น แค่คนทำให้เรื่องมันใหญ่ไปเองมากกว่า"
เรารู้สึกยังไงบ้างที่ทางออแกไนซ์อ้างว่าฌอห์ณไม่อยากร่วมงานกับเอสเธอร์ ?
"อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง ก็ไม่เป็นไรครับแต่ผมร่วมงานกับเขาได้"
เราให้กำลังใจเอสเธอร์ยังไงบ้าง ?
"ก็พาเขาไปกินข้าว"
วันวาเลนไทน์มีอะไรพิเศษให้เอสเธอร์บ้างไหม ?
"ก็พาไปกินข้าวครับ เดี๋ยวก็จะมีของขวัญให้เขาด้วยเหมือนกัน เพราะว่าเป็นวันวาเลนไทน์แรกของเรา แต่ไม่ได้ไปกันสองคนนะเพราะว่ามีคุณแม่ไปด้วย ซึ่งผมเองก็คิดว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกันที่คุณแม่ไปด้วย เพราะจะได้มีคนช่วยถ่ายรูปคู่ให้ ส่วนน้องเขาจะให้อะไรผมอันนี้ผมไม่ได้คาดหวัง ไม่ต้องให้ก็ได้ครับ"
เราเจอเรื่องดราม่าร่วมกันค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะครั้งนี้ เราถือว่ามันเป็นบททดสอบสำหรับเราทั้งคู่ได้เลยไหม ?
"ไม่ต้องพิสูจน์หรอกครับ ให้มันไปเรื่อยๆ ของมันดีกว่า"
ณ ตอนนี้เรียกว่าแฟนได้หรือยัง ?
"โอ้โห (อึ้งไปประมาณ 10 วินาที) ก็พิสูจน์ได้ว่า เราก็ถือว่าเป็นคนพิเศษกันครับ (หัวเราะ) เป็นคนพิเศษสำหรับผม ผมอยู่ด้วยและมีความสุข"
ทำไมถึงใช้คำว่าคนพิเศษไม่ใช้คำว่าแฟน ?
"ไม่รู้สิ ก็มันพิเศษกว่าไง จะเรียกยังไงก็ได้มันแล้วแต่เราสองคน"
"สุดท้ายนี้ผมขอฝากโฟโต้บุ๊คหน่อยครับ ซึ่งโฟโต้บุ๊คเล่มนี้ มีผม มีพี่เวียร์ มีพี่โอ้ ถ่ายร่วมกัน ซึ่งอาเล็กเป็นคนถ่ายให้ ส่วนจะเซ็กซี่ไหม อยากให้ตามไปซื้อดูกันเอาเอง รายได้ทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้กับทางสภากาชาติไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ และก็จะมีการจับฉลากผู้โชคดีที่ซื้อโฟโต้บุ๊คเล่มนี้ 250 คน มาร่วมงานมีตติ้งกับพวกเราด้วย"
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ