มข.ยืนยัน ส่งสรีระสังขาร “หลวงพ่อคูณ” กลับวัดบ้านไร่ไม่ได้
วันที่ 22 ก.พ.60-คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชี้แจงไม่สามารถส่งสรีระสังขารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กลับไปฌาปนกิจที่วัดบ้านไร่ได้ เนื่องจากพินัยกรรมระบุให้ประกอบพิธีที่จังหวัดขอนแก่นและนำอังคารไปลอยแม่น้ำโขงเท่านั้น
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ไม่สามารถให้ญาติพี่น้อง รวมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นำสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณกลับไปฌาปนกิจที่วัดบ้านไร่ได้ เพราะจะทำผิดพินัยกรรมที่หลวงพ่อคูณระบุไว้และผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา เนื่องจากตามพินัยกรรมข้อ 3 หลวงพ่อคูณได้ระบุไว้ชัดว่า “การจัดพิธีบำเพ็ญกุศล เมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดโดยเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามมิให้ขอพระราชทานเพลิงศพ โกฏิ และ/หรือพระราชทานพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นกระทำเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปณสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทย์ศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่จังหวัด
ส่วนพินัยกรรมข้อ 4 ระบุว่า เมื่อดำเนินการตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่านและเศษอังคารทั้งหมดให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาสมดังนั้น มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะกระทำนอกเหนือพินัยกรรมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายและมีความผิดถูกฟ้องร้องในภายหลังได้
สำหรับหนังสือขอสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ซึ่งนางคำมั่น วงษ์กาญจนรัตน์ น้องสาวของหลวงพ่อคูณ รวมทั้งญาติพี่น้องและกรรมการวัดได้ทำเรื่องมานั้น ถือเป็นหนังสือฉบับที่ 2 แล้ว โดยฉบับแรกได้ส่งมาถึงเมื่อช่วงเดือนม.ค. 2559 ซึ่งในครั้งนั้นได้ลงนามโดยเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยส่วนตัวนั้นเข้าใจในความรู้สึกของญาติพี่น้อง และศิษยานุศิษย์ แต่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความจำเป็นต้องทำตามพินัยกรรม ซึ่งเป็นความประสงค์ของหลวงพ่อคูณด้วยเช่นกัน