ธรรมกายร้อง “ยูเอ็น” โดนละเมิด อ้างเกินความสมเหตุผลไปเเล้ว
วันที่ 23 ก.พ. 60 — เวลา 10.00 น. พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในกรณีทหารเข้าวางรั้วลวดหนาม ณ อาคารบุญรักษา ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.พ.) ว่า ญาติโยมแจ้งว่า เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่หลายสิบนายได้เข้ามาในพื้นที่เขตอาคาร 60 ปี และพังประตู รวมถึงวางแนวลวดหนาม ทำให้ญาติโยมและพระเป็นกังวล เพราะมองแล้วน่ากลัว และยังมีการยื้อยุดกันในช่วงนั้น จนพระบาดเจ็บหลายรูป ต่อมาเจรจากัน ชาวบ้านและศิษย์วัดขอความเมตตาจากเจ้าหน้าที่ให้ออกนอกพื้นที่ เพราะกังวลและขอให้นำยุทโธปกรณ์ทางทหารออกไปด้วย
"เท่าที่ทราบเมื่อเช้าวันนี้ ทหารเข้ามาโดยไม่ได้แจ้ง หากมีการล้อมแบบนี้ก็ตกใจ และยังไม่ทราบว่า วัดจะอยู่ได้กี่วันหากปิดล้อมแบบนี้ ขอเรียนว่าที่ผ่านมาดีเอสไอจะแจ้งว่าจะค้นจุดใดก่อน วัดประสานกับดีเอสไอตลอดในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ขอความเห็นใจด้วย ตอนนี้ลูกศิษย์วัดรวบรวมยอดผู้บาดเจ็บในการปะทะกันร้องเรียนยูเอ็นไปแล้ว เพราะเจ็บเพิ่มจาก 8 เป็น 11 ราย มีบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีใครตาย และบางคนตุ้มหูเพชรหาย และวันที่ 27 ก.พ. ยูเอ็นจะประชุมใหญ่เรื่องสิทธิมนุษยชน ญาติโยมจะร้องเรียนยูเอ็นเรื่อง ม.44 ย้ำว่า วัดไม่ได้ต่อต้านรัฐบาลแต่สิ่งที่รัฐบาลกระทำนั้นเกินกว่าเหตุผลและไม่ได้รับความเป็นธรรม"
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส กล่าวอีกว่า พระในวัดที่บิณฑบาตตอนเช้าต้องมาบิณฑบาตลวดหนามและขอให้เจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่ ญาติโยมไม่สบายใจ การตรวจค้นวันที่ 16-18 ก.พ. เจ้าหน้าที่คุมพื้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้นนอก คือ ทหาร, ชั้นกลาง คือ ตำรวจ, ชั้นใน คือ ดีเอสไอ และมีสุนัขตำรวจมาตรวจค้นด้วยในอาคารแห่งนี้ อาตมานำตรวจค้นเอง เจ้าหน้าที่รับรองแล้ว และขอให้เจ้าหน้าที่ออกนอกพื้นที่ โดยขอความเมตตา ทราบว่าวันนี้เจ้าหน้าที่จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ และออกหมายจับพระเพิ่มอีก 43 รูป ทั้ง ๆ ที่ไปรายงานตัวแล้ว
"ล่าสุดสมเด็จพระสังฆราชทรงตรัสแล้วว่า อยากให้ยุติเหตุการณ์นี้แบบสันติ หากยกเลิก ม.44 และหมายจับนั้น ทุกฝ่ายคลายกังวล จากนั้นเจ้าหน้าที่และสื่อจะเข้ามาตรวจค้นใหม่ได้ หากประกาศยึดพื้นที่เด็ดขาด ญาติโยมไม่สบายใจ เพราะการตรวจค้นวันที่ 4 เจ้าหน้าที่ประกาศให้ออกนอกพื้นที่ เหมือนมายึดวัดและสึกพระ ญาติโยมจึงไม่สบายใจ"
"เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พระทัตตชีโวนำสารของญาติโยมไปแจ้งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ท่านไม่ได้ปฏิเสธเจ้าหน้าที่ ขอความเป็นธรรมให้ทัตตชีโวที่อายุ 76 ปีแล้ว แต่ญาติโยมไม่สบายใจ หากเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการเบาไปหาหนักนั้น 3 วันที่ตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า จบภารกิจแล้ว และเซ็นเอกสารเองว่าไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย"
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.พ.) ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารได้นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นอาคารบุญรักษา บริเวณทางเข้าประตู 1 วัดพระธรรมกาย เพื่อตรวจค้นจุดต้องสงสัย แต่พบกลุ่มมวลชนพระสงฆ์และลูกศิษย์วัดกว่า 500 คน ตั้งแถวเผชิญหน้าและเดินหน้าประชิดผลักดันให้เจ้าหน้าที่ทหารออกจากพื้นที่วัด โดยมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ถอยกำลังเข้ามาประชิดประตูรั้ว และนำแผงลวดหนามและรั้วเหล็กมากั้นในพื้นที่ แต่คณะลูกศิษย์วัดยังไม่ยินยอม โดยประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า "พระธัมมชโยไม่อยู่ภายในวัด เจ้าหน้าที่เคยตรวจค้นแล้วไม่พบ จะค้นซ้ำอีกเพื่ออะไร วันนี้ที่มวลชนรวมตัว เพราะต้องการปกป้องศาสนา ขอให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังพร้อมรื้อรั้วลวดหนามออกไป"
จากนั้นกลุ่มพระและศิษย์วัดเดินเรียงแถวหน้ากระดานกดดันอย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ทหารตัดสินใจถอนกำลังและรื้อถอนรั้วลวดหนามออกไปจากพื้นที่วัด จากนั้นกลุ่มพระและลูกศิษย์วัดนำแผงสังกะสีมากั้นทางเข้า-ออกอาคารบุญรักษาและนำท่อปูนซีเมนต์มากั้นตลอดแนวทางเข้า พร้อมขึงสแลนรอบพื้นที่ไม่ให้มองเห็นเข้าไปด้านใน จากนั้นแจ้งให้สื่อมวลชนออกนอกพื้นที่ โดยระบุว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล