ปู ไปรยา รักใหม่ดี๊ดี! ควงแฟนมหาเศรษฐี เดินเล่นสวนสนุก วันวาเลนไทน์
ถึงแม้จะบอกว่าสถานะชีวิตตอนนี้เน้นงานเป็นหลัก ส่วนเรื่องรักก็แค่อีกหนึ่งองค์ประกอบ แต่พอถูกสื่อถามถึงโมเม้นท์หวานๆ เมื่อช่วงวันวาเลนไทน์กับหนุ่มคนสนิท "แมทธิว บราก" นักธุรกิจชาวสวีเดนหล่อรวยระดับมหาเศรษฐี ก็เล่นนางเอกสาว "ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก" ถึงกับเขินเบาๆ ก่อนจะเผยว่า กิจกรรมเติมความหวานในวันนั้นก็แค่เดินชมสวนสนุกกันแบบชิวๆ ไม่ได้มีของขวัญหรือของแทนใจแต่อย่างใด
เนื่องจากเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยชื่นชอบเรื่องเซอร์ไพร์ส ส่วนสถานะระหว่างเธอและ หนุ่มแมทธิว จะใช้คำว่าแฟนได้หรือไม่นั้นตอนนี้ยังอยากให้รอไปก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่สนิทที่สุด
วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ?
"ก็ไปคุยงานที่แอลเอมาค่ะ และก็ได้มีโอกาสพักผ่อนด้วย"
แต่ภาพที่ออกมาค่อนข้างจะสวีทหวานเป็นพิเศษ ?
"(ยิ้ม) ก็โอเคค่ะ ก็ดี ปกติ (หัวเราะ) ไปเดินเล่นกันที่สวนสนุกดูนั่นดูนี่ ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์ก็ไม่มีค่ะ คือปูก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเนอะ ปูไม่นิยมของขวัญและปูก็ไม่ชอบเซอร์ไพรส์ ปูชอบความเสมอต้นเสมอปลายมากกว่า และที่สำคัญปูชอบคนที่เขามีความรู้สึกดีๆ กับเราแค่นั้นก็พอแล้ว ส่วนเรื่องวัตถุสิ่งของปูไม่ชอบเพราะมันไม่ยั่งยืน"
เราบอกว่าเราเป็นแนวเรียบง่าย แล้วฝ่ายชายล่ะเขาเป็นแนวไหน ?
"เรียบง่ายค่ะ (หัวเราะ)"
ด้วยภาพที่ออกมาหลายคนก็เลยลุ้นว่าเขาจะขอเราเป็นแฟนวันนั้นเลยไหม ?
"รอดูค่ะ (หัวเราะ) แต่ถามว่าความรู้สึกพัฒนาขึ้นไหม เอ่อ...วันพิเศษอารมณ์พาไปค่ะ แต่ไม่บ่อย (หัวเราะ)"
ส่วนตัวเราเองพร้อมเรียกเขาว่าแฟนเลยไหม ?
"สถานะจริงๆ ก็คือบินไปบินมาทำงานไปก่อนค่ะ เพราะงานคือสถานะหลัก แต่มันก็ไม่แปลกหากจะมีคนเข้ามาคุยมาถามทุกข์สุขเพื่อให้ตัวเราเองได้รู้สึกเบา ชีวิตก็เจออะไรหนักๆ มาเยอะเนอะ"
กังวลไหมเพราะระยะทางที่มันห่างกันอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคในอนาคต ?
"ปูโตแล้วค่ะ ปูเคยผ่านจุดป๊อปปี้เลิฟมาแล้ว และปูก็รู้ตัวเองด้วยว่าปูมีหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว รวมถึงปูต้องประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ดังนั้นปูต้องแบ่งแยกให้ได้ ถึงปูจะคิดถึงแต่ปูก็ต้องทำหน้าที่ก่อน ซึ่งถามว่าเขาเข้าใจไหม เข้าใจสิคะ ต้องเข้าใจ (หัวเราะ)"
ตั้งแต่เรากลับมาเมืองไทยได้มีโอาสพูดคุยกับเขาบ้างหรือยัง ?
"คุยเรื่อยๆ ค่ะ แต่อย่างที่บอกเนอะตอนนี้ปูอยู่ในช่วงจังหวะชีวิตที่ปูสู้มาขนาดนี้แล้ว และอะไรดีๆ ก็กำลังจะเกิดขึ้นในสิ่งที่ปูใฝ่ฝัน ดังนั้นปูขอเอางานก่อนค่ะ ส่วนเรื่องความรักปูก็ไม่เคยปิดอยู่แล้วค่ะ แค่ไม่ได้โฟกัสเป็นหลักเพียงแต่ให้มันเป็นองค์ประกอบหนึ่งในชีวิตปู เพราะปูไม่ค่อยอยากคาดหวังกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ปูอยากคาดหวังกับตัวเองก่อน ทำทุกวันให้ดีที่สุดค่ะ"
จะมีโอกาสชวนเขามาเมืองไทยไหม ?
"ยังค่ะ ไม่มาค่ะ ยังไม่ชวน (หัวเราะ) ถามว่าเขาอยากมาเมืองไทยไหม เอ่อ...จริงๆ เขาต้องทำงานค่ะ เพราะถ้าให้เขาทิ้งงานเพื่อมาที่นี่มาหาผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่น่าจะเหมาะ ปล่อยให้เขาทำงานไปดีกว่าค่ะ"
จริงๆ เป็นเพราะเราเบรคเขาด้วยไหมเรื่องที่จะมาไทย ?
"ไม่มีการเบรคค่ะ ทุกอย่างโอเค (หัวเราะ)"
ณ ตอนนี้สำหรับเราเขาก็คือคนที่สนิทที่สุด ?
"เขาก็คือคนเดียวที่ปูคุยค่ะ เราขอดูกันไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ปูเองก็มีความสุขกับทุกๆ วัน ชีวิตดี (ยิ้ม)"
พอจะทราบไหมเรื่องข่าวที่ว่าโน้ตเขากำลังความรักครั้งใหม่ ?
"ก็อย่างที่ปูเคยบอกมาตลอดนะว่าคุณโน้ตเขาเป็นคนที่น่ารักมาก แต่เวลาที่เขามีเพื่อนผู้หญิงหรืออะไรก็แล้วแต่มันก็มักจะมีข่าวแบบนี้ออกมาบ่อยๆ ดังนั้นก็อยากให้รอฟังจากเขาดีกว่า เพราะปูเองก็ตอบแทนใครไม่ได้ และก็ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดคุณโน้ตด้วยเพราะเขาเป็นคนน่ารักมาก"
ตัวเราเองพอจะทราบข่าวนี้บ้างไหม ?
"ปูอ่านข่าวตลอดค่ะ และก็ถามเขาแล้วด้วย ซึ่งเขาก็หัวเราะใส่ปูเพราะว่ามันไม่มีอะไร (ยิ้ม) คือบางครั้งการเขียนข่าวมันก็สนุกนะ แต่ปูเองก็อยากจะบอกว่าคุณโน้ตเขาเป็นคนที่โฟกัสกับงานมากและก็ให้เกียรติผู้หญิงมาก ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างซีเรียสไม่อยากให้เพื่อนๆ ผู้หญิงรอบตัวเขาต้องอึดอัด สรุปก็คือฟังจากปากเขาดีกว่าค่ะ แต่ปูเชื่อว่าไม่มีอะไรหรอก"
ถ้าหากเขามีรักใหม่เรายินดีไหม ?
"ยินดีสิคะ ยินดีมาก ก็อย่างที่บอกปูรักครอบครัวพี่โน้ตมาก โดยเฉพาะคุณแม่ของพี่เขา และปูเองก็มีแต่ความรู้สึกดีๆ รวมถึงความหวังดีให้เขามาตลอด เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ปูเป็นปูอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะปูไม่เคยลืมคนที่อยู่ในชีวิตปู ซึ่งเขาก็ยังเป็นอีกคนที่ปูรู้สึกดีกับเขามาก"
ถ้าเขามีแฟนเราจะช่วยแสกนด้วยไหม ?
"ไม่ค่ะ (หัวเราะ) ปูขอเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า แต่อย่างที่บอกปูเชื่อว่าคุณโน้ตเขาเก่งอยู่แล้วค่ะ"
ล่าสุดเห็นว่าเราลงพื้นที่เยี่ยมผู้อพยพด้วย ?
"จริงๆ ปูลงพื้นที่ในประเทศไทยมา 3 ปีแล้วนะคะ แต่ครั้งนี้คือครั้งแรกที่ปูได้เดินทางไปจอร์แดน และได้พบกับผู้ลี้ภัยที่เขาเดินทางมาจากซีเรีย ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตปูมาก เพราะมันทำให้ปูได้เข้าใจว่าความต้องการสุดท้ายแล้วของมนุษย์จริงๆ ก็คือการได้อยู่กับครอบครัว และอยู่อย่างปลอดภัย"
การเดินทางไปถึงค่ายลำบากมากไหม ?
"นิดหนึ่งค่ะ แต่ก็ไม่ต่างกับค่ายที่ไทยมาก เพียงแต่ว่าตรงนั้นอาจจะโหดกว่าตรงที่เขาเป็นทะเลทราย ฝุ่นเยอะ อากาศหนาวแต่ว่าแดดแรง คือปูก็ไปค่ายมาเยอะนะคะแต่ที่นี่โหดมากเลย"
ชีวิตการเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นยังไงบ้าง ?
"ปูเห็นแล้วคิดว่าเขาน่าสงสารมาก เพราะหลายครอบครัวที่ปูได้พบส่วนใหญ่เขาก็เจอกับเหตุการณ์สูญเสีย แต่สิ่งหนึ่งที่ปูได้เห็นจากผู้ลี้ภัยซึ่งปูคิดว่ามันคอสิ่งมหัศจรรย์ของมนุษย์ก็คือ บุคคลที่ไม่ว่าเราจะผ่านอะไรก็ตาม แต่เราก็ยังพร้อมที่จะมีความหวังและความเข้มแข็งที่จะเดินไปข้างหน้า ซึ่งทางผู้ลี้ภัยเองเขาก็ยังฝากคำขอบคุณมาถึงคนไทยด้วยนะคะที่ช่วยกันบริจาคข้าวของเครื่องใช้ ให้ความช่วยเหลือ และให้ที่พักพิง เขาขอบคุณทุกๆ คนมากเลยค่ะ"
หลังจากยี้เรามีแพลนจะเดินทางอีกไหม ?
"มีค่ะ มีลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในประเทศไทยรวมถึงองค์กรอื่นๆ ด้วย และช่วงกลางปีก็น่าจะได้เดินทางไปต่างประเทศอีก"
อย่างรูปที่เรากอดน้องหลายๆ คนก็พากันซึ้ง ?
"จุดอ่อนของปูคือเด็กปูยอมรับเลยค่ะ และ 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้ลี้ภัยก็คือเด็ก เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ พลัดพรากกับครอบครัว ปูเห็นเด็กซีเรียแล้วใจอ่อน ซึ่งมันก็เหมือนกับที่ปูเคยพูดไว้ว่า ปูไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตนี้ปูจะมีลูกของตัวเองหรือเปล่า แต่เมื่อปูได้เจอกับเด็กๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใด สีผิวใด ปูก็ถือว่าเขาคือลูกปู และปูก็อยากมอบอนาคตที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา"
ช่วงที่อยู่ที่นั่นเราได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องความรู้สึกกับเขาบ้างไหม ?
"พูดค่ะ แต่ด้วยความที่เราอาสาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วหากเราจะร้องไห้มันก็คงไม่เหมาะ แต่ปูก็ยอมรับนะคะว่าปูเองก็เป็นคน พอเราได้ฟังเรื่องราวของเขาก็รู้สึกเศร้าเหมือนกัน ชีวิตคนเราเกิดมามันยุติธรรม แต่คนที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นอย่างเช่นปูเราก็ควรจะมอบความยุติธรรมให้กับคนที่ไม่มีโอกาสเท่าเรา ดังนั้นถ้าถามว่าปูสะเทือนใจไหม ปูสะเทือนใจค่ะ แต่ว่าสิ่งที่เราทำได้ก็คือการเป็นกระบอกเสียงให้กับพวกเขา เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าเขาใช้ชีวิตกันยังไงและเราจะช่วยเหลือเขาได้ด้วยวิธีใดบ้าง"
เหนื่อยไหมกับการทำหน้าที่เป็นฑูต ?
"ไม่นะคะ เพราะปูเองก็เป็นอาสามา 3 ปีแล้ว ส่วนคำว่าฑูตก็เป็นแค่คำคำหนึ่งที่ช่วยให้เรามีกระบอกเสียงที่ดังขึ้น ดังนั้นหน้าที่ของปูก็ยังเป็นเหมือนเดิม เป็นอาสาที่ลงพื้นที่พบปะผู้คนและนำเรื่องราวของพวกเขามาถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง"
จากสิ่งที่เราได้เห็นผู้ลี้ภัยหรือผู้ประสบภัยเขาขาดแคลนอะไรมากที่สุด ?
"ทุกอย่างเลยค่ะ และอย่าลืมนะคะเราเองก็ยังมีผู้ลี้ภัยในประเทศไทยด้วย เพราะว่าสงครามทั่วโลกมันทำให้ต้องมีผู้ที่เขาพลัดถิ่นและลี้ภัยออกมาแทบทุกวัน ตัวเลขของผู้คนเพิ่มขึ้นตลอด ดังนั้นปูถึงสามารถบอกได้เลยว่าพวกต้องการงบประมาณเป็นอย่างมาก และเราเองก็ต้องการความช่วยเหลือจากทุกๆ คน"
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ