หน่วยพยาบาลปฏิเสธหลงทาง ทำผู้ป่วยเสียชีวิตในวัดพระธรรมกาย
วานนี้ (1 มี.ค.) มีผู้เสียชีวิตรายที่ 2 ในช่วงเวลาของการปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ซึ่งทางวัด อ้างว่า เป็นผู้ป่วยโรคหอบหืด ซึ่งเสียชีวิตเพราะหน่วยพยาบาล มาถึงผู้ป่วยช้า เนื่องจากหลงทางและเสียเวลาประสานงานกับด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ แต่ล่าสุด ทีมข่าว PPTV ได้รับคำยืนยันจากหน่วยพยาบาลว่าเข้าถึงผู้ป่วยตามรยะเวลาการปฏิบัติตามปกติ
กรณีผู้ป่วยเสียชีวิต ด้วยโรคหอบหืด ในพื้นที่วัดพระธรรมกาย ถูกอ้างถึงโดย พระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย โดยโพสต์เฟซบุ๊ก อ้างว่า ผู้ป่วยโรคหอบหืด เป็นหญิงวัย 48 ปี เสียชีวิต เพราะเจ้าหน้าที่หลงทาง และมีความล่าช้าในการติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมพื้นที่ตามจุดต่างๆ โดยระบุว่า ใช้เวลาเข้าไปรับนานกว่า 1 ชั่วโมง
พนักงานสอบสวน สภ. คลองหลวง ได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 สอบปากคำ เจ้าหน้าที่กองอำนวยการคลองหลวง ชี้แจงว่า ได้รับแจ้งเหตุ เวลา 12.10 น. เข้าไปถึงจุดที่ผู้ป่วยอยู่เวลา 12.35 น. ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปกติ และไม่ได้หลงเส้นทาง เพราะมีพยาบาลในวัดพระธรรมกายนำทางไป โดยไปถึงที่พักผู้ป่วย แต่เมื่อไปถึงผู้ป่วยไม่มีสัญญาณชีพแล้ว จึงต้องตรวจสอบเวลาการเสียชีวิตด้วยในการชันสูตรพลิกศพ
เจ้าหน้าที่พยาบาล ที่กองอำนวยการคลองหลวง ยืนยันว่า ทำตามขั้นตอนปกติ โดยไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งก่อนหน้านี้กองอำนวยการคลองหลวง ทำข้อตกลงร่วมกับวัดพระธรรมกายว่า หากมีคนเจ็บป่วยจะต้องนำตัวมาส่งที่ประตู 7 เท่านั้น แต่เคสนี้ ไปรับถึงจุดที่พัก
ส่วนความเคลื่อนไหวทางยุทธวิธีของทั้ง 2 ฝ่ายวันนี้ ย้อนกลับไปช่วงเช้าทหารนำป้ายที่มีข้อความระบุชัดเจนว่า ถ้าหากมวลชนและพระสงฆ์ไม่ออกจากพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานบุกรุก ที่เป็นแบบนี้ ทหารให้เหตุผลว่าต้องการคัดกรองคนเข้าพื้นที่ เพื่อลดจำนวนมวลชนในตลาดกลางคลองหลวง แต่ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ป้ายดังกล่าวก็ถูกยกออก โดยมีจนท.ดีเอสไอชี้แจงเหตุผลว่า ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง โดยท่าทีที่กำลังเกิดขึ้นนี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของรองอธิบดีดีเอสไอ เมื่อวันก่อน
ส่วนสิ่งที่ดีเอสไอทำได้เต็มกำลังที่สุดในพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวงช่วงนี้ คือ การ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คัดกรองพระที่เดินทางมาสมทบ หากไม่ใช่พระวัดพระธรรมกายก็จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ เพราะจนท.อยากให้ปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของวัดพระธรรมกาย สำหรับการจัดการกับมวลชนที่ตลาดกลางคลองหลวงล่าสุด รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ได้เก็บหลักฐานการกระทำความผิดทั้งหมดแล้ว เตรียมดำเนินคดีในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่
ล่าสุดดีเอสไอ ได้เชิญตัวนาย อัยย์ เพชรทอง ศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่เป็นแกนนำที่ตลาดกลางคลองหลวง มาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการของดีเอสไอแล้ว อยู่ระหว่างการพูดคุย
ขณะที่ฝั่งของตำรวจ มีคำสั่ง ย้ายพันตำรวจเอกเขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 และมอบหมายให้พันตำรวจเอกสามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี เข้าปฏิบัติราชการแทน พร้อมระบุว่าจะชี้แจงสาเหตุการย้ายภายหลัง