2 เซียนเบื้องหลังเกมโชว์ The Mask Singer กับกลยุทธ์ที่เริ่มจากความลับบนแผ่นกระดาษ

ปรากฏการณ์เกมโชว์ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ทำเรตติ้งทะลุละครที่ออนแอร์ในคืนเดียวกัน ส่งผลให้บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรายการกำลังไล่บี้เรตติ้งช่องใหญ่ที่ตอนนี้อาจรู้สึกร้อนร้อน หนาวหนาว

สำหรับหลายช่อง “ละคร” คือหมัดเด็ดในการแย่งชิงคนดู แต่เวิร์คพอยท์เซียนเกมโชว์เลือกแนวทางที่ตัวเองถนัดแล้วลงแข่ง ความอลังการของรายการ คณะกรรมการหลากรสชาติ พิธีกรชวนติดตามและบรรยากาศของความลับคืออาวุธสำคัญ

คุณแก้ว -ชยันต์ จันทวงศาทร

 

 คุณดาว-ดาราราย ศรีจิตรแจ่ม

สองคนทำงานเบื้องหลัง คุณแก้ว -ชยันต์ จันทวงศาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการผลิต และคุณดาว-ดาราราย ศรีจิตรแจ่ม Group Head  ฝ่ายผลิตรายการ มานั่งพูดคุยถึงวิธีการทำงาน และสูตรเด็ดที่ทำให้ The Mask Singer กลายเป็นกระแสทั้งบนหน้าจอทีวีและโลกออนไลน์

รายการนี้เป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี อะไรคือความแตกต่างจากต้นฉบับและประเทศจีนที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปทำก่อน

คุณแก้ว : ผมว่ามันสนุกเหมือนกัน แต่วัฒนธรรมของแต่ละประเทศมันไม่เหมือนกัน

คุณดาว : อย่างเกาหลีเขาจะเอาศิลปินซูเปอร์สตาร์รุ่นเก่าที่ไม่มีผลงานกับบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปมาแข่ง แล้วบ้านเค้าศิลปินมันเยอะ พอเปิดมาแล้วมันว้าว เด็กๆ ชอบ เขาจะมีสองส่วน ซูเปอร์สตาร์รุ่นเก่า ตกงานแล้วไม่มีผลงาน มันจะเป็นแนวดราม่าซึ่งต่างจากเรา

 

สำหรับคนทำงานอะไรคือความท้าทายในการทำรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วทำให้ถูกจริตคนไทย

คุณดาว : ทำยังไงก็ได้ให้รายการเราสนุกกว่า เหนือกว่าทุกด้าน และคนไทยชอบ มักยากตรงวิธีคิด ซึ่งเราไม่รู้ว่าวิธีการทำงานของเขาคืออะไร เหมือนเราต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ไม่หลุดจากฟอร์แมทเขา และเป็นตัวของเราเองอันนี้คือความท้าทาย

คุณแก้ว : เวลาเราได้รับสูตรอาหารอะไรต่างๆ มา ตอนเราจะมา Cooking ตอนนี้สำคัญมาก เพราะวิธีทำอาหารของเชฟแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ดังนั้นตอนเรามาแกะสูตรแล้วเอามาปรุงโคตรสำคัญเลย แล้วทำกันมาเสร็จแล้วมันต้องยอมรับกันด้วย ผมต้องเรียกคนอื่นมาชิม คนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไปเรียกฝ่ายบัญชี แม่บ้าน เพื่อวิจารณ์ และทำได้เต็มที่ แล้วผมก็ไม่อยู่เดี๋ยวเขาจะเกร็ง

 

กว่าจะเป็นเทปแรกใช้เวลาเตรียมงานนานไหม มีขั้นตอนอะไรบ้าง

คุณดาว : อย่างต่ำ 6 เดือน นับตั้งแต่เลือกซูเปอร์สตาร์ว่าจะมีใครบ้าง คอสตูม วิธีการทำงาน เรื่องการรักษาความลับ เรื่องเพลง 6 เดือนนี่ให้เวลากับคอสตูมไปเลย 3-4 เดือน

เราจะเห็นว่าการผลิตรายการทุ่มเท พิถีพิถันมาก ทำไมเราต้องทำขนาดนั้น

คุณแก้ว : ดาวทำงานกับผมมา 6-7 ปีแล้วเราผ่านรายการใหญ่ๆ มาด้วยกันเยอะ ประเภทโชว์ น้องจะมีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต เรื่องแสง สี เสียง เขาทำงานหนักมาก ก่อนวันบันทึกเทปจะต้องมีการบล็อกกิ้ง กำหนดแสง กำหนดไฟเหมือนคอนเสิร์ต เหมือนรันทรูก่อน 1 รอบ กล้อง ไฟ แสง สี เสียงให้รับส่งกันทั้งหมด

 

คุณดาว :พี่แก้วจะวางระบบการทำงานดีมาก ตั้งแต่กระบวนการศูนย์ก่อนขึ้นเป็นแผ่นกระดาษ 1-10 คุณคิดอย่างไรต้องทำแบบไหน อุดยังไง มีทุกส่วน ต้องรู้เท่ากันหมดทุกรายละเอียดเราต้องใส่ใจ ไม่ประมาทกับมัน

คุณแก้ว : อีกส่วนหนึ่งที่ผมจะบอกกับน้องเสมอคือ เราทำงานเราไม่ได้ใช้เครื่องจักรทำงาน เราทำงานกับมนุษย์ ดังนั้นทำอย่างไรก็ได้เรื่องของงานก็ส่วนหนึ่ง แต่จงรักษาบรรยากาศการทำงานให้ดี นั่นคือการเป็นทีมเวิร์ค มีอะไรช่วยเหลือกัน ด่าก็ด่า เลิกก็จบกัน เรื่องพวกนี้ผมพยายามบอกน้องเสมอว่ามันต้องไปพร้อมๆ กัน เพราะการทำงานของคนหมู่มากมันจะมีเรื่องผิดใจกันได้มาก เรื่องนี้สำคัญ

 

เรื่องหน้ากากและชุดเป็นเรื่องหนึ่งที่คนสนใจ ความยากและขั้นตอนการออกแบบหน้ากากแต่ละชุดเป็นอย่างไรบ้าง

คุณดาว : หนึ่งหน้ากากใช้เวลาการออกแบบขั้นต่ำประมาณ 1 เดือนไปจนถึง 3 เดือน เพราะแต่ละชุดไม่เหมือนกัน บางทีคนนี้ดีไซน์มาแล้วไม่ถูกใจ เราก็คัดออกเพราะไม่ใช่อย่างที่บอกไป เราก็เปลี่ยนจนกว่าจะถูกใจและใช่ สวยที่สุด ดีที่สุด อลังที่สุด

ขั้นตอนเริ่มจากการออกแบบโดยถามจากซูเปอร์สตาร์ว่าเขาอยากเป็นใคร อยากใส่หน้ากากอะไร มันคือไอเดียแรก จากนั้นบอกมาว่าจะเอาฮา หรือสวย เขาต้องการแบบไหน

 

เรื่องความลับเป็นกลยุทธ์สำคัญของรายการนี้ ความลับทำให้รายการน่าสนใจขึ้นอย่างไร

คุณแก้ว : เวลาวางแผนการทำงานเราเริ่มต้นจากการคิดกลยุทธ์และเรื่องความลับมันเป็นกลยุทธ์ที่เริ่มจากการวางกระดาษแผ่นเดียวบนโต๊ะทำงาน แต่เราต้องการให้มันกระจายไปถึงคนดู ตอนนี้เวลาบันทึกรายการบอกเลยไม่มีพนักงานคนไหนอยากเข้าไปดูเพราะก่อนเข้าไปคุณต้องเซ็นสัญญา วางบัตรประชาชน บอก IG, Facebook ปั้มลายนิ้วมือ ตรวจว่ามีกล้องซ่อนอยู่รึเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะเราแค่ต้องการสร้างบรรยากาศของความลับ แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะไปไกลขนาดนี้ บรรยากาศความลับนี้ยังกระจายไปถึงเหล่าซูเปอร์สตาร์แต่ละคนทั้งที่เคยและไม่เคยมาออกรายการเราด้วย

 

เรื่องความลับใช้ได้กับทุกการทำรายการเลยไหม

คุณแก้ว : ผมว่าใช้ได้ เพราะเรื่องการรักษาความลับมันก็ทำกันทุกที่อยู่แล้ว เวลาจะเซอร์ไพรส์คนมันก็เหมือนๆ กัน เพียงแต่ผมบอกได้เลยว่าคงไม่มีใครทำสุดโต่งเท่าผม แม้ทุกวันนี้คุณปัญญา นิรันดร์กุลกับคุณประภาส ชลศรานนท์ยังไม่อยากเข้าไปดูการอัดรายการเลย เพราะมันดูวุ่นวายยุ่งยากเหลือเกิน

ที่ผ่านมาแขกปริศนาบางคนพอเปิดหน้ากาก จะมีคำถามว่า “ใครวะ” ตรงนี้ทำให้รายการสนุกน้อยลงไหม

คุณแก้ว :คุณจะเอากลุ่มไหนล่ะ เปิดมาเป็นดุ๋ง พาที สารสิน วัยรุ่นก็ไม่มีใครรู้จัก แต่สัก 35 อัพ เอ้ย…ออกมาได้ไงวะ เราจะเอากลุ่มไหนดี ไม่งั้นผมต้องใช้สรพงษ์ ชาตรีอย่างเดียวแล้วมั้งครับ ถึงจะแมสทุกคนรู้จัก เบื้องต้นการทำรายการมันต้องหาพอสมควร

 

เพราะดาราหรือนักร้องยังไม่เคยเห็นรายการนี้มาก่อน ดังนั้นการติดต่อมาเพื่อออกรายการเป็นเรื่องยาก แล้วเขาต้องใส่หน้ากาก แล้วเป็นหน้ากากอะไรก็ไม่รู้ อีกอย่างมันเป็นการแข่งขันที่มีการตกรอบด้วย ฉันไม่อยากไป มันก็เลยทำงานยาก แต่พอรายการออกไปสักพัก มันจะเห็นแล้วว่าเรื่องแพ้ ชนะ ไม่ได้สำคัญ มันคือการคุยเล่นกันสนุกๆ พอออนแอร์ไปแล้วเริ่มมีดาราหลายๆ คนอยากเข้ามาร่วมรายการ การเริ่มต้นมันยาก มันจึงเป็นไปได้ว่าเปิดมาแล้ว “ใครวะ” แต่มั่นใจว่าหลังจากนี้ไม่มี “ใครวะ” อีกแน่นอน มีแต่ใครอีกวะ (หัวเราะ) แต่ผมเข้าใจได้นะมันก็เหมือนใครมาเชิญผมไปทำรายการแบบนี้ผมก็คงมีคำถามเหมือนกัน มันเป็นปัญหาเบื้องต้นของการทำงาน แต่มันผ่านไปได้ เรามั่นใจว่ารายการเราดี เดี๋ยวเขาก็กลับมาเอง แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

 

การทำรายการเพื่อตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ยากไหม

คุณแก้ว : ผมว่าไม่ยาก เพราะสาระสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น แก่นของรายการมันอยู่ตรงความสนุก 4 อย่างที่ผมบอกไป

ปัจจุบันคนไม่ได้ดูรายการผ่านทีวีอย่างเดียว คุณมีหลักการทำงานเพื่อสื่อสารกับช่องทางที่เพิ่มขึ้นอย่างไร

คุณแก้ว : ตอนนี้มี 2 ช่องทาง ช่องทางแรกคือทีวี เราวัดด้วยเรตติ้ง แต่ของออนไลน์เราเห็นคอมเมนท์แบบฉันพลัน หลักการทำงานของเราคือเอาสองส่วนมาผสมกัน อย่างแรกเรตติ้งต้องตอบโจทย์ เราก็รักษาเรตติ้งต่อไปให้ได้ ส่วนเรื่องออนไลน์เราก็ดูคอมเมนท์ว่าคนดูคิดเห็นอย่างไร บางทีเราได้คอมเมนท์แปลกๆ เราก็นำมาปรับปรุงใช้ในรายการ

 

ผมว่าดีซะอีกพอมีแพลตฟอร์มเพิ่มเข้ามามันสะท้อนความคิดเห็นในแง่ของคนดูจริงๆ กลับมาได้เร็วทันใจ สมัยก่อนต้องรอออนแอร์แล้ว 1 สัปดาห์เพื่อรอเรตติ้งจาก Neilson  (บริษัทวิจัยทางการตลาด) ผมว่าดี เพียงแต่เราต้องอ่านคอมเมนท์อย่างมีสติ และคัดกรองให้ดี