เซ่นปมไร้เงา “ธัมมชโย” รวบศิษย์วัด เด้งข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น

เซ่นปมไร้เงา “ธัมมชโย” รวบศิษย์วัด เด้งข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น

เซ่นปมไร้เงา “ธัมมชโย” รวบศิษย์วัด เด้งข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตามคำสั่งมาตรา 44 แม้จะเป็นการบังคับใช้กฎหมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้ส่งผลกระทบกับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับวัดพระธรรมกายเป็นจำนวนมากทั้งฝ่ายข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น

ภารกิจ 18 วัน กับมาตรา 44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายใต้ปฏิบัติการปิดล้อมกระชับพื้นที่วัดพระธรรมกายของดีเอสไอ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของพระธัมมชโย ว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในวัดหรือไม่ แต่จากปฏิบัติการครั้งนี้ ส่งผลกระทบไปถึงบุคคลใกล้ชิดจำนวนมากที่ต้องรับเคราะห์ไปด้วย

ล่าสุด พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ออกมาแถลงข่าวถึงความเคลื่อนไหวทุกวัน ถือเป็นเป้าหมายสำคัญหลังถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หากเจ้าหน้าที่พบเห็นที่ไหน ก็สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ทันที

เช่นเดียวกัน นายอัยย์ เพชรทอง ศิษย์เอกของวัดพระธรรมกาย ก็ถูกเรียกเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฐานขัดคำสั่ง คสช. หรือแม้แต่ โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย นายองอาจ ธรรมนิทา ก็ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้เช่นกัน

มาตรา 44 แผลงฤทธิ์อีกครั้ง เมื่อหัวหน้า คสช. สะบัดปากกาเซ็นคำสั่งย้าย นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากร ลูกหม้อของดีเอสไอ ข้ามห้วยมารับตำแหน่งแทน โดยกระโดดจากซีเก้ามาเป็นซีสิบเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

ด้านข้าราชการตำรวจในพื้นที่ติดกับวัดพระธรรมกายก็ไม่ละเว้น ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เซ็นคำสั่งย้าย พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่วัดพระธรรมกาย ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 ทำให้เกิดกระแสข่าวถึงการสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงครั้งนี้ ถูกตีความว่าเป็นหนึ่งในยุทธวิธีของฝ่ายรัฐบาล

ฝั่งนักการเมืองท้องถิ่นซึ่งใกล้ชิดวัดพระธรรมกายก็ไม่เว้นหน้า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เซ็นคำสั่งย้ายผู้บริหารระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถึง 6 คน ทั้งนายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง นายกฯอบต.คลองสาม กำนัน และผู้ใหญ่บ้านนับเป็นกลุ่มแรกที่ถูกสั่งย้ายด่วนออกจากพื้นที่ หลังพบอุปสรรคต่อปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโย ทำให้จนถึงล่าสุดขณะนี้ ดีเอสไอได้เรียกตัวบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ มาสอบสวนแล้วเกือบ 20 คน

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ซึ่งนับวันสถานการณ์จะยิ่งบานปลาย และสร้างความเสียหายขยายวงกว้างออกไป ตราบใดที่ พระธัมมชโย ยังไม่ยอมปรากฏตัว และทุกฝ่ายพูดตรงเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางออกที่ง่ายที่สุด คือ พระธัมมชโย จะต้องเข้ามอบตัวและถูกดำเนินคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook