12 นักเรียนหญิงชี้จุดครูทำอนาจาร เรียกมาลูบคลำที่โต๊ะ

12 นักเรียนหญิงชี้จุดครูทำอนาจาร เรียกมาลูบคลำที่โต๊ะ

12 นักเรียนหญิงชี้จุดครูทำอนาจาร เรียกมาลูบคลำที่โต๊ะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ที่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนชื่อดังในเขตเทศบาลเมืองชัยนาท เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ฉลองชัย บางจั่น รองสว. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา หลังเด็กนักเรียนหญิง 3 คน ถูกครูผู้ชายชื่อ นายอนุพันธ์ อายุ 41 ปี เป็นครูประจำชั้น ทำอนาจารกับบุตรหลานของตนเอง ทางผู้ปกครองต่างผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงของจังหวัด จึงไว้เนื้อเชื่อใจ และครูที่ก่อเหตุก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่น่าจะทำกิริยาที่ต่ำทรามเช่นนี้

จากการสอบสวนในเบื้องต้น เด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ทั้ง 3 คน ให้การว่า ถูกครูประจำชั้นลูบคลำหน้าอก และอวัยวะเพศ ซึ่งพฤติการณ์การลวนลามนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2559 ที่ผ่านมา โดยจะเรียกเด็กนักเรียนเข้าไปในห้องสังคม ศาสนา ชั้น 4 ซึ่งครูคนดังกล่าวใช้เป็นห้องพัก ให้เด็กนวดก่อนจากนั้นครูก็จะจับแขน จับขา ลามจับที่หน้าอกเด็ก รวมเด็กที่เข้าทำการแจ้งความจนถึงขณะนี้ รวมทั้งสิ้น 12 คน ปัจจุบันได้ให้นายอนุพันธ์ครูคนดังกล่าวออกจากราชการไปแล้ว

ต่อมาวันที่ 12 ก.พ. 2560 นายอนุพันธ์ อายุ 41 ปี เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองชัยนาท ตามหมายจับ ลงวันที่ 10 ก.พ. 2560 ในข้อหา กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม นำส่งพนักงานสอบสวน และสอบปากคำ ซึ่งในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้มีการนำตัวยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดชัยนาทขณะที่ญาติของผู้ต้องหาได้ทำการยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อประกันตัวออกไป เป็นเงินสด 120,000 บาท เพื่อออกไปสู้คดีในชั้นศาล ต่อไป

ล่าสุด (6 มี.ค.) พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข ผกก.สภ.เมืองชัยนาท และ ร.ต.อ.ฉลองชัย บางจั่น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นำตัวนักเรียนหญิง ชั้น ป.6 จำนวน 12 คน ที่เข้าทำการแจ้งความว่าถูก นายอนุพันธ์ ลวนลาม และกระทำอนาจาร ไปชี้โต๊ะที่ห้องสังคม ศาสนา บนอาคารชั้น 4 ที่ นายอนุพันธ์ ครูคนดังกล่าว ใช้ทำการก่อเหตุสะเทือนใจผู้ปกครองและเด็กๆในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.ชัชพิมุข มีมุข เผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ทำการพยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆที่เหลือ นำส่งศาล เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนจะทำการตัดสินเมื่อไรนั้น ยังอยูในกระบวนการของศาล ซึ่งให้ความมั่นใจกับผู้ปกครองและเด็กนักเรียนว่า เรื่องสะเทือนใจในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนหากเราช่วยกันสอดส่องดูแลแบบนี้ไปตลอด หากมีเหตุการณ์แบบนี้ต้องรีบแจ้งทางตำรวจและผู้บริหารทันทีจะได้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสองอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook