เปิดผังรอบอาคารบุญรักษา เทียบยุทธวิธีทางทหาร

ดีเอสไอยอมรับว่า แนวกั้นรอบอาคารบุญรักษา เป็นสาเหตุที่ทำให้จนถึงตอนนี้ ยังไม่กล้าเข้าพื้นที่เพื่อตรวจค้นวัดอีกรอบหนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าภายในจะเป็นอันตรายหรือไม่ 

พื้นที่อาคารบุญรักษา อยู่ในพื้นที่130ไร่วัดพระธรรมกาย ตลอด 20 วันที่ผ่านมา ดีเอสไอ พยายามเข้าตรวจค้นพื้นที่นี้อย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ แต่จากการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ขึ้นตรวจสอบ พบว่า พื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่ประตูที่อยู่เลียบคลอง 3 ยาวไปจนถึงอาคารบุญรักษา เป็นประตูปิดตาย มีแท่งปูนบรรจุหินวางติดประตูไว้ ถัดจากนั้นเป็นคันดิน มีแสลนขึง และรถแบคโฮ จอดอยู่ในพื้นที่ พร้อมกับนั่งร้าน ซึ่งพบพระสงฆ์ปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเวลา 

ถัดเข้าไปด้านใน มีคูคลองที่ขุดขึ้นใหม่ ความลึกประมาณ3-4 เมตร อยู่ในระนาบขวางทางเข้า มีลักษณะคล้ายกำแพง 5 คู ระยะห่างแต่ละคูเท่ากัน แต่ดีเอสไอไม่ได้เปิดเผยว่า ห่างกันเท่าใด โดยลักษณะคูน้ำ ถูกขุดขวางทางเข้า

ส่วนด้านขวามือเป็นคูน้ำตามธรรมชาติ จากการตรวจสอบล่าสุดนี้พบว่า มีการอุดคูน้ำธรรมชาติ และปล่อยน้ำเข้าไปใน5คูที่ขุดไว้ ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนและสวนเตยซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรใกล้เคียง

ถัดจากนั้นเป็นที่ตั้งอาคารบุญรักษา และถัดจากอาคารบุญรักษา มีเต็นท์ที่พักของพระภิกษุ และมวลชนจำนวนหนึ่ง เมื่อมองภาพจากมุมสูง มีลักษณะคล้ายกับค่ายทหาร เพราะเต็นท์แต่ละหลังมีระยะห่างเท่ากัน และห่างออกไปมีการตั้งแท่งปูน วางเป็นแนวข้างคูน้ำธรรมชาติ ด้านขวา มีถังน้ำมัน200ลิตร18ถัง วางอยู่ด้วย ข้อมูลจากจนท.ระบุว่า ถังน้ำมันแต่ละถังวางห่างกันในระยะเท่ากัน200เมตร รวมถึงในมีกระสอบป่านวางปิดฝาถังไว้

แม้ว่าพระจากวัดพระธรรมกายจะชี้แจงว่าการวางถังน้ำมันในจุดนั้น เพื่อขึงสแลนให้ตึง แต่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษชุดปฎิบัติการมองว่า หากต้องการขึงสแลนให้ตึงระยะห่างของถังน้ำมันน่าจะต้องใกล้กว่านี้ เรื่องนี้ชุดปฏิบัติการดีเอสไอแถลงเมื่อวานยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ยังไม่กล้าตัดสินใจบุกเข้าไปภายใน เพราะไม่รู้ว่า มีอันตรายหรือไม่ 

สอดคล้องกับ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่วันนี้แถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่สิ้นสงสัย พร้อมตั้งคำถามไปถึงวัดพระธรรมกาย ว่านี่คือความพยายามขัดขวางการปฏิบัตงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่

ล่าสุดการตรวจสอบพื้นที่ 130 ไร่ ที่ตั้งอาคารบุญรักษา ดีเอสไอพบว่า เป็นของเอกชน และเตรียมออกคำสั่งเรียกเจ้าของที่ดินมารายงานตัว