แพทย์ประจำตัวพระธัมมชโย เปิดใจไม่พบกันนานแล้ว
เรียกได้ว่าทุกหน่วยงานตบเท้าไปสู่เส้นทางเดียวกันแล้วก็คงไม่ผิด เมื่อวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปงง. เรียงหน้าเข้าให้ข้อมูลต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ที่อาจจะนำไปใช้ในการประชุมมหาเถรสมาคมวันพรุ่งนี้ ขณะที่หนึ่งในทีมรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า ไม่ได้พบกับพระธัมมชโยมานานแล้ว หลังจากร่วมแถลงอาการเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
การตอบคำถามระหว่างแถลงข่าวทิศทางของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ สพฉ. ในโอกาสรับตำแหน่งเลขาธิการ สพฉ.คนใหม่ ของ นพ.อัจฉริยะ แพงมา หนึ่งในทีมรักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโย โดย นพ.อัจฉริยะ ยืนยันว่า การวินิจฉัยว่าเคลื่อนย้ายไม่ได้ ในเวลานั้น มีกรอบเวลาอยู่ที่ 2 - 3 เดือน และนับจากนั้นก็ไม่ได้เข้าตรวจวินิจฉัยอาการของพระธัมมชโยอีกเลย
ส่วนความเคลื่อนไหวที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประชุมมหาเถรสมาคม และอาจมีตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมประชุมด้วย วันนี้ช่วงเช้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่ง พ.ต.ท.ปกรณ์ สุขชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินและการธนาคาร เป็นตัวแทนมามอบข้อมูลสรุปคดีในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มีพระธัมมชโยเป็นผู้ต้องหา ให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนา
จากนั้นไม่นาน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 ก็มามอบข้อมูลในลักษณะเดียวกันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นกัน ต่อด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ปปง. ที่ส่งนายวิทยา นิติธรรม ผอ.กองกฎหมาย ถือหนังสือสรุปคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย ในส่วนของปปง. มาให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนา
โดยสรุปภาพรวมของคดีของทั้ง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย ปปง. คือความผิดที่เข้าข่ายฐานฟอกเงิน มาจากกรณีรับเงินบริจาค ที่มาจากการยักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และสร้างสถานปฏิบัติธรรมรุกที่ป่าในพื้นที่ต่างๆที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ขณะที่ดีเอสไอ มีคดีพิเศษฐานฟอกเงินและรับของโจร ส่วนที่มากสุดคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 346 คดี 24 หมายจับ ในจำนวนนี้เป็นหมายจับพระธัมมชโยทั้งส่วนตัวและนิติบุคคล 16 หมายจับ
ทั้ง 3 หน่วยงาน ขอให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ นำเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณาว่า ในทางปกครองของคณะสงฆ์สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง โดยมี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาคนใหม่ และเป็นอดีตข้าราชการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับข้อมูล
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะมีข้อเสนอให้สึกพระธัมมชโยโดยที่ไม่ต้องพบตัว ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำหนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ตามขั้นตอนทางการปกครองคณะสงฆ์ตรวจสอบแล้วว่า การแจ้งความผิดเพื่อสึกต้องทำโดยพบตัวพระภิกษุที่ตกเป็นผู้ต้องหา และเรื่องนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะพระธัมมชโยมีมวลชนสนับสนุนจำนวนมาก
ส่วนเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ข้อมูลว่า จะปิดฉากเรื่องนี้ภายใน 5 วัน พล.ท.สรรเสริญ ระบุว่า ได้ตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ส่วนนี้แล้ว ยืนยัน อาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น เพราะความหมายที่แท้จริงคือ 5 วันจะมีความคืบหน้า