นายกฯ ด่าสื่อ เสนอข่าวทำคนเข้าใจผิดขึ้นภาษี 1%
วันนี้นักข่าวที่ติดตามทำข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องหูชาไปตามๆกัน หลังถูกนายกฯต่อว่า เรื่องเสนอข่าวบิดเบือน เกี่ยวกับ ปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 1 จนทำคนเข้าใจผิด โดยนายกฯบอกว่า ไม่ได้บอกว่าจะปรับขึ้น แค่ ถามว่าเสียสละได้หรือไม่ถ้าอยากให้ประเทศพัฒนา เรียกได้ว่าเป็นการต่อว่าสื่อที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
ปฏิกิริยาของนายกรัฐมนตรีวันนี้เต็มไปด้วยความฉุนเฉียว นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้จะปรับขึ้น ตามที่สื่อนำเสนอ แค่อธิบายเรื่องภาษี เพราะประชาชนเรียกร้อง อยากให้พัฒนาหลายอย่าง ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็อยากจะดำเนินการให้ทุกเรื่อง จึงเปรยออกไปว่า ถ้าขึ้นภาษีร้อยละ1 รายได้จะเพิ่มขึ้น 100,000 ล้านบาท แล้วประชาชนเสียสละได้ไหม
แต่สื่อกลับตีความว่ารัฐบาลต้องการขึ้นภาษีประชาชน โดยเมื่อวานนี้หลังข่าวนี้ออกไปในสังคมออนไลน์มีความคิดเห็นออกมามากมาย แต่ส่วนใหญ่ ต่อว่ารัฐบาลเช่นกัน และตั้งคำถามว่าเอาเงินไปทำอะไรหมดถึงมาขูดรีดกับประชาชน
ย้อนไปดูที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ว่า ทำไมถึงเกิดการตีความว่า รัฐบาลต้องการขึ้นภาษีประชาชน เป็นการให้สัมภาษณ์ ของนายกรัฐมนตรี หลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลเจ้าพระยา จังหวัดปราจีนบุรี
ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ยืนยันว่า เรื่องการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อีก 1% ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแนวคิดจะขึ้น ภาษีอย่างแน่นอน เพราะเศรษฐกิจไทยเวลานี้อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ดังนั้น จึงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีควรจะทำเมื่อเศรษฐกิจมีระดับการเติบโตสูง หากไทยจะปรับขึ้นภาษี ครั้งละ 1% ก็ถือว่าเป็นเกณฑ์ที่สามารถทำได้ ขณะที่ประเทศคู่แข่งไทย เช่น สิงคโปร์ ยังใช้ภาษี ที่อัตรา 7% เช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีนี้เป็นเครื่องสะท้อนว่าประเทศที่ใช้อัตราภาษีต่ำมักจะเป็นแรงจูงใจที่ดีท่ามกลางประเทศในภูมิภาคที่เก็บภาษี VAT ในอัตรา 10% เช่น เมียนมา ลาว เวียดนาม และกัมพูชา