ต้นหอม สถานะรัก ซัน รอลงอาญา ห้ามทำผิดซ้ำสอง
ถึงแม้สถานการณ์หัวใจจะดูดีขึ้นจนเกือบจะกลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่ดีเจสาวอารมณ์ดี “ต้นหอม ศกุนตลา” ก็ยังคงต้องเดินหน้าพิสูจน์ความรักที่มีให้กับหวานใจหน้าตี๋ “ซัน ประชากร” แบบเต็มที่เหมือนเดิม แถมล่าสุดเจ้าตัวยังออกมาอัพเดทให้ฟังในงาน “SHINE BRIGHT LIKE A CRYSTAL” By The Skin Doctors ด้วยว่า ตอนนี้เธอกับฝ่ายชายได้พูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการโกหกอีก ซึ่งถ้าถามถึงความรัก ณ ตอนนี้ก็เหมือนอยู่ในช่วงรอลงอาญา ห้ามทำผิดซ้ำสอง!!
ส่วนกรณีดราม่าที่ชาวเน็ตโยงข้อความซึ่งอดีตคนรักของเธออย่างนักแสดงหนุ่ม “แทค ภรัณยู” โพสต์ลงอินสตาแกรมปริศนาว่า “วงจรอุบาทว์” นั้น สาวต้นหอมได้ให้ความเห็นเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ได้รู้สึกซีเรียสแต่อย่างใด เพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไร ก่อนทิ้งท้ายวันนี้ขอให้เวลาแคร์แค่คนๆ เดียวพอ…
ความสัมพันธ์กับซันในตอนนี้สรุปยังไง ?|
“80 เปอร์เซ็นต์ถ้าเป็นนักโทษต้องบอกว่ามีบทสรุปแล้วว่ารอลงอาญา ก็กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมได้แต่ว่าอย่าทำผิดซ้ำอีก อะไรที่เคยบอกไว้ว่าไม่ชอบก็อย่าทำอีก ก่อนกลับมาหอมก็ขายของไปเยอะว่าหอมจะทำนั่นทำนี่เยอะมาก วันนี้เขาก็เหมือนรอดูว่าสิ่งที่พูดจะทำได้รึเปล่า เขาอยากดูความตั้งใจจริงของเรา เพราะเขามองว่านี่มันคืออนาคตนะ ถ้าคุณอยากจะอยู่ตรงนี้จริงๆ ก็ทำให้เห็น เขาบอกว่าอยู่ที่ตัวเอง เขาโกรธหอมที่หอมโกหก ชีวิตคู่บางคนการโกหกมันเป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก แต่หอมว่าในเมื่อมันไม่มีอะไรก็ปล่อยให้มันผ่านไป โกหกไปให้มันผ่านๆ แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ ถ้าเริ่มต้นยังเป็นอย่างนี้ต่อไปอนาคตจะไว้ใจได้อย่างไร ตอนนี้ก็คือซื้อความไว้ใจ”
ข้อตกลงไหนที่ทำให้เขายอมใจอ่อน ?
“เขาก็คงเบลอๆ เพราะหอมขายของทุกวัน เขาก็ยังไม่มีใคร อยู่กับหอมก็สนุกดีเพราะหอมเล่นตลกให้ดูด้วย หอมก็บอกว่าไม่ผูกมัดลองอยู่ๆ กันไปก่อน แต่สถานภาพเขาก็ยังดูแลหอมเหมือนเดิม แต่กำแพงก็อาจจะลดลงมายังไม่หมด 100 เปอร์เซ็นต์ เขาก็ยังไม่สนิทใจ หอมเชื่อว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา เขาเองก็รอเวลาพิสูจน์เราว่าเราจะรักษาคำพูดได้ไหม ก็จัดสัญญาไปหนักเลย แต่หอมก็มั่นใจว่าสิ่งที่พูดไปหอมทำได้อยู่แล้ว หอมไม่ได้พูดโอเวอร์ในสิ่งที่ทำไม่ได้ มันแค่ปรับไม่ถึงกับเปลี่ยน”
ความรู้สึกที่ว่าเกือบจะสูญเสียผู้ชายคนนี้ไปเป็นยังไงบ้าง ?
“เสียดาย เรารู้สึกว่าเราตามหาคนที่ใช่มาทั้งชีวิต หอมเป็นคนที่ความอดทนต่ำ พอไม่ใช่จะเปลี่ยนเรารู้สึกว่าเสียเวลา แต่กับคนที่หอมรู้สึกว่าใช่หอมก็เทหมดหน้าตักไปแล้ว พอวันหนึ่งมันเกิดเรื่องขึ้นมาก็เหมือนโดนถีบตกเหว รู้สึกว่าเราเคว้งคว้าง เราจะไปทางไหน โอเคงั้นเราลองสู้จนถึงที่สุดดูก่อน แต่หอมบอกก่อนเลยว่าหอมมีหมอดูข้างกาย เขาช่วยหอมได้เยอะมาก ถ้าหอมไม่ได้ดูดวงมาก่อนวันที่หอมโทรไปขอคืนดีแล้วเขาบอกว่าไม่หอมวางแล้วนะคะ ใจหอมเสียแล้วแต่หมอดูบอกว่า รอบนี้ยังไงก็ไม่เลิก หมอดูบอกว่าให้โทรไปเย็นๆ เขาจะอารมณ์ดีขึ้น ตอนนี้อยู่ที่เรา เขาจะขอคำสัญญาจากเราว่าเราจะไม่ทำอีก ตอนแรกโทรไปเขาก็ไม่เอาอ่ะ ผมไม่เอาแล้ว เราก็แบบนึกถึงคำหมอดูว่ามันอยู่ที่เราเราต้องฮึดขึ้นมา หอมก็พยายามยื้อจนเขายอมคุยด้วย”
กลัวจะเกิดขึ้นอีก ?
“หอมคิดว่าข้อผิดพลาดทั้งหมดมันน่าจะอยู่ที่หอมไม่ได้อยู่ที่เขา หอมคิดว่าหอมคอลโทลได้ ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสสุดท้ายของหอมด้วย หอมเชื่อว่าการสูญเสียเป็นบทเรียนที่มีค่า วันนี้โอกาสมันได้กลับมามันเลยมีค่ามากๆ เมื่อหอมเห็นคุณค่าของมันแล้วหอมจะรักษามันไว้ให้นานที่สุด ต่อไปหอมจะพูดทุกอย่างให้หมดแบบไม่ต้องถาม (หัวเราะ) เรายื่นข้อเสนอนี้เป็นโปรโมชั่นเลยบอกหมดแบบไม่ต้องถาม แน่นอนความไว้ใจเขาอาจจะมีระแวง มีคำถามอยู่ในใจว่าจะโกหกอีกไหม ต่อไปหอมก็เปิดหมดเลย ตัวหอมเองไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องรอให้เขาบอกว่าถ้ายังโกหกอีกจะยังไง รู้ได้โดยสัญชาตญาณ คือไม่กล้าทำอีกแล้ว ก็มีจุดนี้จุดเดียวที่มุมมองเราต่างกัน หอมคิดว่าเราไม่ต้องพูดทุกเรื่องหรอก เราไม่อยากพูดเราก็โกหกให้ผ่านไปก็ได้ แต่ ณ วันนี้เขาบอกว่าเรารับได้ทุกเรื่อง ฉะนั้นอยากถามอะไรก็ถามมา หอมก็จะตอบให้หมด”
เราเองต้องเปลี่ยนตัวเอง ?
“ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หอมว่าหอมน่ารักขึ้น มันก็ดีสำหรับคนที่เป็นแฟนอยู่แล้ว พอเขายอมใจอ่อนเรานี่แบบเหมือนต้นไม้ได้น้ำ (หัวเราะ) ลัลลาเลย แต่เราต้องเกร็งหน้าก่อนเวลาเจอเขา ถ้าเราร่าเริงมากเขาจะคิดว่าเราไม่สำนึก ตอนนี้ก็ได้เจอเขาแล้ว ก็ไปกินข้าวกัน เราก็แบบดูสิถ้าเขานั่งกินข้างคนละฝั่งกับเราแปลว่าเขายังโกรธอยู่ แสดงว่าเป็นพี่น้อง หอมเลยนั่งชิดในสุดให้ดูว่ามีพื้นที่เหลือนะ พอเขานั่งที่เดียวกับเราก็โอเค มันยังอยู่ในเกม”
คิดว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีกนานไหมกว่าจะได้คืน ?
“ได้คืน แต่ต้องใช้เวลา อย่างที่บอกเขาก็ต้องพิสูจน์เรา ตัวหอมมั่นใจว่าหอมทำได้จริง มันไม่มีอะไรยากสำหรับการเป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้เขายังไม่ให้เราใช้คำว่าเป็นแฟนกัน แต่หอมเชื่อว่าถ้าถึงเวลาก็คงได้ใช้เองแหละ”
จะกลับมาลงรูปคู่เมื่อไหร่ ?
“ต้องอีกสักพักหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ตอนนี้บางทีเขาก็มีสรรพนามเรียกว่าพี่บ้าง เรานี่เจ็บเลย ห่างเหิน เราก็เรียกน้องจ๋า เป็นพี่น้องกันนะโอเคป่ะ เราก็โอเคสิ คืนตอนนี้ยังไงก็ได้ให้อยู่ตรงนี้ก่อน แต่บางครั้งเขาก็มีท่าที่ที่เป็นแบบเดิมกับเรา ยังเป็นห่วง ยังอะไร ยังยอมให้เจอ”
มีการโยงคนเก่าเข้ามา เขาใช้คำว่าวงจรอุบาทว์ ?
“หอมไม่เก็ตกับแอคชั่นของใครบางคนว่าทำทำไม หรืออะไร หอมว่าไปถามเขาดีกว่า หอมห่างกันมานานมาก ตัวหอมก็ไม่เคยไปยุ่ง ต่างคนต่างทำงาน แต่ถ้าเขาโพสต์แล้วทำให้รู้สึกดีขึ้น สบายใจขึ้นก็ไม่เป็นไร วันนี้ชีวิตหอมแคร์แค่คนๆ เดียว คนที่หอมเลือกคนนี้เป็นคนที่ดีพอที่หอมยอมทั้งชีวิตเพื่อแลกคนนี้กลับมา คนอื่นไม่ว่าจะทำอะไรหอมไม่ซีเรียสเลย เราไม่มีโอกาสได้เจอกัน เขาไม่ใช่คนที่มีความหมายในชีวิตเรา อะไรที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนหอมย่อมรู้ดีว่าหอมเป็นคนที่ดีหรือไม่ดีในวันนั้น”
คิดว่าเขาหมายถึงเรา ?
“ไม่คิดเลยค่ะ หอมไม่เก็บเอามาใส่ใจเลย อย่างที่บอกว่าหอมไม่เก็ต”
เห็นว่าข้อความนี้ขึ้นหลังจากที่ผู้ชายสองคนไปเจอกันที่เกาหลีคิดว่าเขาคุยอะไรกันไหม ?
“ไม่คุยค่ะ เราถามมาแล้ว เขาทำงานค่ะ หอมเองรู้นิสัยของคนทั้งคู่อยู่แล้ว เขาไม่คุยกันเรื่องแบบนี้”
คนรอบข้างมาถามไหมว่าเขาหมายถึงเรา ?
“ไม่ต้องถามหรอก อะไรอุบาทว์อ่ะ ตรงนี้หอมมั่นใจเกินร้อยอยู่แล้ว แต่การออกมามีแอคชั่นตรงนั้นต้องการอะไรตรงนี้ต้องถามเขา หอมไม่ใส่ใจเลย บัวมีสี่เหล่าเนอะ ถ้าจะหันมีดเข้ามาแทงตัวเองมันมีแต่เสียกับเสีย คนรอบข้างตอนนี้หอมบอกเลยนะคะยิ่งมีแอคชั่นมากเท่าไหร่หอมยิ่งดูแพงมากเท่านั้น ฉะนั้นวันนี้หอมจะออกไปร้อนรนทำไม แล้วหลังจากนี้หอมขอไม่ตอบคำถามเรื่องของเขาด้วย อยากรู้ต้องไปถามเขาเอง หอมไม่ยุ่งเกี่ยว”
สร้างกระแสเลิก ?
“หอมว่าหอมเป็นดาราที่จริงสุดแล้ว หอมไม่สามารถบอกทุกคนว่าจงฉลาด หอมแสดงให้ดูชัดขนาดนี้คนที่ฉลาดพอจะเห็น คนที่ฉลาดไม่พอเขาก็จะไม่เห็น หอมคงไม่ต้องไปนั่งสอนทุกคน หอมว่ามันเป็นต้นทุนของคนที่มีความคิดอยู่แล้ว ใครมีวิจารณญาณ วิเคราะห์ได้จะมองออก หอมเองชัดเจนมากๆ ใครจริงใครปลอมมองไม่ยาก หอมไม่โทษถ้าคนจะมองว่าดาราเดี๋ยวนี้สร้างกระแส เพราะดาราสร้างกระแสมีอยู่จริง แต่ 1 ใน 3 ของดาราสร้างกระแสไม่มีหอมติดอยู่แน่ๆ แต่จะเป็นใครไปคิดเอาเอง หอมว่าบางอย่างปิดกันไม่ได้ ก็แล้วแต่คนจะคิดเลย"