คมนาคมเผย สอบใบขับขี่ ปี 60 “อบรม 2 วันครึ่ง” ค่าเรียนไม่ต่ำกว่า 6,000 บาท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มรีมติปรับแก้เงื่อนไขการออกใบขับขี่ใหม่ ให้ใช้เวลาอบรม 2 วันครึ่ง พร้อมกำหนดโรคที่ห้ามมีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย ที่ประชุม ครม.มีมติกำหนดกฎเกณฑ์ในการขอ-ต่อใบทะเบียนอนุญาตขับรถ พ.ศ. 2548 ใหม่ให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นทั้งในเรื่องหลักสูตร เงื่อนไข วิธีการ การสอบใบขับขี่ โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไปไม่ต้องมาที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อมาอบรมและสอบทฤษฎีเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ใช้เวลาครึ่งวันต่อไปแล้ว แต่ให้ไปสอบทฤษฎี และอบรมกับโรงเรียนสอนขับรถเอกชน ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมการขนส่งที่มีอยู่ 90 แห่งแทน เป็นเวลา 15 ชั่วโมง หรือใช้เวลา 2 วันครึ่งแทน
ส่วนประชาชนในต่างจังหวัด ยังสามารถไปอบรมที่ขนส่งจังหวัด และโรงเรียนสอนขับรถของเอกชนโดยใช้เวลาอบรม 15 ชั่วโมงท่ากัน
สำหรับประชาชนที่ต้องการต่อใบขับขี่ หรือขาดการต่ออายุใบขับขี่ไม่เกิน 1 ปี ต้องอบรมอย่างน้อย 1 ชั่วโมง กับโรงเรียนสอนขับรถ และขนส่งจังหวัด จากนั้นทางโรงเรียนจะส่งข้อมูลการผ่านการอบรมมาที่กรมการขนส่ง ประชาชนสามารถแสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อรับการทดสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับขี่ต่อไป นอกจากนี้ ครม.ยังได้กำหนดชื่อของโรคติดต่อที่น่ารังเกียจเป็นลักษณะต้องห้ามในการขอรับใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เช่น โรคหอบหืด เท้าช้าง ลมชัก
นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบการร่างกฎกระทรวง กำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งประเภทรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ต้องมีสมุดบันทึกการบำรุงรักษาตัวรถ ระยะเวลาการบำรุงรักษารถตามที่กำหนด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาในการต่ออายุทะเบียนรถนั้นๆ เพื่อควบคุมการเกิดอุบัติเหตุที่ส่วนใหญ่จะเกิดจากสภาพอุปกรณ์ของตัวรถไม่พร้อมในการใช้งาน
ด้าน นายสนิท พรมวงศ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ทั้งนี้การแยกหลักสูตรการอบรมไปให้โรงเรียนสอนขับรถที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมการขนส่งนั้น จะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการอบรมมากยิ่งขึ้นจาก 5 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง ซึ่งผู้เรียนจะได้ความรู้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้สำหรับโรงเรียนสอนขับรถนั้น กรมได้กำหนดเพดานค่าเรียนไม่ต่ำกว่า 6,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าโรงเรียนดังกล่าวต้องใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่กรมการขนส่งเป็นคนออก อีกทั้งต้องเชื่อมระบบกล้องวงจรปิดหรือ ซีซีทีวี เพื่อให้กรมฯ สามารถตรวจสอบได้
ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ.กำลังดำเนินการออกคำสั่งนายทะเบียนฉบับใหม่ เพื่อปรับแก้ข้อยกเว้นในกรม ธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งมีผลให้บุคคลที่ขับขี่รถยนต์หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือการรับค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายเดิมที่กำหนดต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ถึงจะไม่ได้รับความคุ้มครอง โดยคาดว่าจะออกคำสั่งนายทะเบียนได้ช่วงกลางเดือนนี้ทันใช้ในช่วงรณรงค์ลดอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนออกเดินทางจำนวนมาก