ผบ.สส.ยืนยัน ไทย-กัมพูชา ยังไม่ตกลงถอนทหาร แต่เห็นพ้องไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
เอเอฟพีอ้าง ฮุน เซน ฝาก ประวิตร เชิญ มาร์ค เยือนช่วงเหมาะสม ป.ป.ช.เตรียมชี้มูลความผิด 28 รมต.รบ.สมัคร หนุนเขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าจะถอนกำลังทหารออกจากบริเวณพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ภายหลังการเดินทางเยือนกัมพูชาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า พล.อ.ประวิตรเดินทางไปเยือนเพื่อแนะนำตัว และได้ใช้โอกาสนำคณะเยี่ยมคาราวะสมเด็จฮุน เซน ซึ่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาได้แสดงความยินดี โดยกรณีปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหารนั้นได้มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ตกลงเรื่องการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ต่อไปจะไม่ให้มีเหตุบริเวณแนวชายแดนดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี สำหรับเรื่องการถอนทหารออกจากพื้นที่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาขั้นต่อไปให้เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่ดูแลรับผิดชอบไปหารือ เพื่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศต่อไป
มทภ.2 ย้ำ ไทย-กัมพูชา ตกลงถอนทหารเขาพระวิหาร
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งร่วมคณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนกัมพูชา กล่าวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า บรรยากาศการพบปะกันระหว่างสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากับพล.อ.ประวิตร เป็นไปด้วยดี มีการเกริ่นถึงการถอนทหารของทั้ง 2 ฝ่าย บริเวณเขาพะวิหารและตลอดตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ที่มีปัญหากันอยู่ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเป็นการเจรจาระดับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว และอยู่ที่นโยบายของรัฐบาลด้วย โดยคาดว่า จะเริ่มได้ในเร็วๆ นี้
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า การถอนทหารคงต้องเหลือจุดประสานงานระหว่างกันเพื่อป้องกันอธิปไตย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ คือ ฝั่งไทยสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษได้แล้ว โดยรอเพียงขั้นตอนความพร้อมของผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษเท่านั้น
ทางด้าน เอเอฟพี รายงานว่า ก่อนหน้านั้น สมเด็จฯฮุน เซน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วต้องการให้ทั้ง 2 ฝ่ายพบกันบ่อยครั้งขึ้นเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกันและหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งกันและกัน ลดความขัดแย้งลงขยายความร่วมมือให้กว้างขวางมากขึ้นเพื่อรองรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว นอกจากนั้นยังระบุด้วยว่า ได้ฝากเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยให้เดินทางเยือนกัมพูชาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย
ด้าน น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวนคดีการกล่าวหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จำนวน 28 คน จากกรณีที่มีมติสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก กระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนได้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาจนหมดแล้ว หลายคนชี้แจงข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานมาว่า ทำสำนวนรวบรวมข้อเท็จจริงจนเสร็จแล้ว และอาจนำเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือว่าจำเป็นต้องสอบสวนใครเพิ่มเติมหรือไม่ หรือชี้มูลความผิดเลย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ครม.ทั้ง 28 คน อาจส่งผลให้รัฐมนตรี 4 คนใน ครม.ชุดปัจจุบันที่เคยอยู่ในครม.ชุดของนายสมัคร คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 55