ฌอห์ณ เคลียร์! แคปชั่น การสื่อสารฯ ไม่ได้ดราม่าถึงคนอื่น
เพิ่งจะจบเรื่องราวดราม่าไปได้ไม่นาน ล่าสุดพระเอกหนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ก็มีประเด็นแรงให้เคลียร์กันอีกแล้ว หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความชวนให้สงสัยในทำนองว่า “*talk การสื่อสาร สร้าง ความเข้าใจเสมอ" ลงอินสตาแกรม แถมยังใช้ภาพประกอบเป็นภาพสีขาวดำ จนหลายเป็นห่วงหนักมากว่า เอ๊ะ! เจ้าตัวจะกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า ถึงขนาดมีแฟนคลับแห่เข้าไปแสดงความเห็นให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม
ซึ่งงานนี้นอกจากหนุ่มฌอห์ณจะออกมาเคลียร์แบบชัดๆ ว่า ข้อความที่โพสต์เกี่ยวกับการสื่อสาร แท้จริงแล้วเป็นแค่การช่วยโปรโมทงานงานหนึ่งแล้วนั้น เจ้าตัวก็ยังย้ำอีกว่า โดยปกติไลฟ์สไตล์ของตนเองในการลงอินสตาแกรมจะมีแค่เรื่องครอบครัวกับเรื่องงานมากกว่า ส่วนเรื่องดราม่าหรือเรื่องที่ทำให้กลุ้มใจ ก็จะไม่มีการโพสต์ลงโซเชียลเพื่อสร้างความทุกข์ให้กับคนอื่นแน่นอน!!!
ถามถึงข้อความที่เราโพสต์เกี่ยวกับการสื่อสาร อันนั้นหมายถึงใครหรือเปล่า ?
“อ๋อ ไม่ครับ เป็นแค่การโปรโมทเรื่องมือถือเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเลย แค่ลงงานให้เขาครับ”
แต่ในคอมเม้นท์ดันมีแฟนคลับหลายคนให้กำลังใจ คนก็เลยมองว่าเป็นอะไร ?
“ผมเข้าใจนะครับว่าชาวเน็ตหวังดี แต่จริงๆ ถึงแม้จะเป็นรูปจะเป็นขาวดำ มันก็ไม่ใช่รูปดราม่านะครับ มันแค่เป็นรูปอาร์ตๆ ผมอยากให้ดูทุกอย่างเป็นงานศิลปะเพราะผมไม่ค่อยลงรูปเครียดอะไรลงในไอจี ถ้าหากมีทุกข์ผมจะเก็บไว้ในใจและเล่าให้ครอบครัวฟังมากกว่า ไม่ค่อยออกมาโพทานะหรอกครับ”
แสดงว่าในไอจีเราก็จะมีแค่เรื่องส่วนตัว ครอบครัว และก็งานแค่นั้น ?
“ใช่ครับ เรื่องดีๆ ผมเอามาเล่าทุกคนฟัง ส่วนเรื่องไม่ดีผมก็ไม่ได้เอามาสร้างความทุกข์ใจให้คนอื่นอยู่แล้ว”
หลายๆ อย่างตอนนี้ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว ?
“ทุกอย่างดีครับ ผมก็ทำบุญทุกอาทิตย์ มีเวลาว่างก็ไปทำบุญ คืออาจจะเป็นเพราะตัวเราเองโตขึ้นด้วยมั้งเราถืงได้เข้าใจว่าเราอยู่ในที่แจ้ง มันก็จะมีเรื่องราวให้เราเรียนรู้หรือมีคนที่มีความคิดแตกต่างกับเราเข้ามาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือคุณแม่ผมมักจะบอกอยู่เสมอว่าให้เรามีสติ เวลาทำอะไรก็ต้องรู้ตัวทุกอย่าง เพราะถ้าหากมีใครถามเราจะได้ตอบได้ชัดเจนและรู้ตัวว่าเราทำอะไรอยู่ ดังนั้นผมก็ถือว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการคุยงานที่ต้องละเอียดมากขึ้น และไตร่ตรองมากขึ้นในการรับงาน”
แสดงว่าเรื่องนี้ก็ถือเป็นบทเรียนกับเรา ?
“ถ้าคำว่าบทเรียนผมคิดว่ามันน่าจะใช้กับเวลาที่เราทำผิดนะ แต่อันนี้ผมมองว่ามันเป็นประสบการณ์มากกว่า มันเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้ผ่านไปอีกขั้นของชีวิต เพราะถ้าอยู่ในวงการแล้วมันไม่มีเรื่องราวแบบนี้เข้ามาแสดงว่าคุณยังไม่ขึ้นที่สูง ดังนั้นผมก็ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีละกันเพราะมันก็หมายความว่าเราเริ่มอยู๋ในที่แจ้ง อยู่ในจุดที่คนให้ความสนใจ”
แต่หลังจากนี้ก็ต้องไตร่ตรองมากขึ้นในการรับงานแต่ละครั้ง ?
“ใช่ครับ คือไม่ใช่แค่ผู้จัดการส่วนตัวผมนะ แต่ตัวผมเองด้วยเหมือนกัน ผมก็ต้องถามหลายๆ รอบว่าตอนนี้สรุปงานเป็นยังไงบ้าง ไฟนอลแล้วหรือยัง คือมีการตีไปตีกลับตลอดเพื่อความสบายใจของลูกค้า และความสบายใจของตัวเราเอง เรียกว่าไม่เบียดเบียนใครครับ”
กลัวไหมว่าคนอื่นเขาอาจจะมองว่าเราเรื่องมาก ?
“ไม่หรอกๆ ยิ่งเราเรื่องมากงานจะยิ่งน้อยลง แต่อันนี้แค่แบบว่าคุยมาง่ายๆ พูดกันให้ตรง เพื่อที่เวลาทำงานเราเองก็จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย เพราะตัวผมเองก็อยากทำงานให้ทุกคนอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนแฮปปี้กับการว่าจ้าง และเราเองก็อยากมีค่าขนมใช้อยู่แล้วด้วย ฉะนั้นผมก็เลยไม่อยากทำตัวให้มีปัญหากับใคร”
ข่าวที่ผ่านมันส่งผลกระทบอะไรกับตัวเราบ้างหรือเปล่า ?
“ส่งผลให้ก็คือมีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นครับ (หัวเราะ)”
แต่อย่างหลายคนเขาก็ยังมองเรื่องการสื่อสารและตีความว่าเราไปคุยกับเอสเธอร์แล้ว ?
“อย่าครับ อย่าไปโยงอะไรอย่างนั้นเลยครับ ไอจีผมคือเรื่องของผม และครอบครัว และเพื่อนๆ ของผมแค่นั้น ถ้าผมจะโยงไปหาใครผมแท็กเขาไปดีกว่า ไม่ต้องมาโพสต์ลอยๆ หรอก และอีกอย่างหนึ่งคือมันไม่ใช่สไตล์การลงรูปของผมอยู่แล้วที่จะต้องมาเขียนตัดพ้อถึงใคร หรือพาดพิงใคร เพราะไอจีของผมผมเปิดเพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตผม ไม่ใช่ไปเรียนรู้ชีวิตคนอื่นเขา และถ้าหากคุณอยากไปเรียนรู้ชีวิตคนอื่น คุณก็ไม่ต้องมาตามผมก็ได้”
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ