นักศึกษามหาวิทยาลัยชุมชนของอเมริกาจำนวนมากขาดอาหารและไร้ที่อยู่อาศัย
เนื่องจากค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น เพิ่มสูงขึ้น มหาวิทยาลัยชุมชน จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการจะประหยัดรายจ่ายในเรื่องการศึกษา แต่ทั้งนี้ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยชุมชนเหล่านั้น ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย โดยมีรายงานจาก Wisconsin HOPE lab ว่า นักศึกษาในมหาวิทยาลัยชุมชนจำนวนมาก ต้องไร้ที่อยู่ และขาดอาหาร
จากการสำรวจนักศึกษาจำนวน 33,000 คน จากมหาวิทยาลัยชุมชน 70 แห่ง ใน 24 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา พบว่านักศึกษาจำนวน 2 ใน 3 อยู่ในสถานะที่ขาดความแน่นอนในเรื่องของอาหาร ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีจำนวนอาหารอยู่อย่างจำกัด และคุณค่าทางอาหารที่ได้รับนั้นไม่เพียงพอ โดยในจำนวนนี้ นักศึกษาอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในสภาวะขาดความมั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอยู่อาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง ต้องย้ายไปเรื่อย ๆ เพราะมีค่าเช่า และค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่เพียงพอ
ตัวเลขที่รายงานออกมานี้ ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่ไม่มีบ้านอยู่ ซึ่งมีมากถึง 14 เปอร์เซนต์ โดยพวกเขาเหล่านั้นไม่มีงานที่แน่นอน จึงไม่มีรายได้ที่เพียงพอต่อการยังชีพ ยิ่งไปกว่านั้น นักศึกษาอีกจำนวนไม่น้อย ยังต้องกู้ยืมเงินจากทางมหาวิทยาลัย เพื่อใช้เป็นค่าเทอมอีกด้วย
มีรายงานจากศูนย์ข้อมูลกลางของมหาวิทยาลัยชุมชน ที่มหาวิทยาลัย เท็กซัส ออสติน ด้วยว่าการที่นักศึกษาไม่มีเงิน และขาดการสนับสนุนในเรื่องการเงินนี้ ทำให้พวกเขาจำนวนกว่าครึ่ง ต้องเลิกเรียนไป แม้มหาวิทยาลัยชุมชน จะเป็นทางเลือกในการศึกษาขั้นสูงที่มีราคาต่ำที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยได้อย่างเต็มที ดังนั้นจึงยังปรากฏให้เห็นว่า มีนักศึกษาที่ยังอดอยาก และไร้บ้านอยู่ทั่วประเทศ