บทเรียนชีวิต “นก วนิดา” ขยาดเรื่องยา ขอบคุณผู้ใหญ่ให้โอกาสอีกครั้ง
หายหน้าหายตาไปพักใหญ่สำหรับตลกหญิง “นก วนิดา แสงสุข” ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีคดียาเสพติดจนต้องตกงาน แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็หวนกลับมาทำงานวงการอีกครั้งแล้วเพราะได้เจอเจ้าตัวเข้ากองรายการ โจ๊กเกอร์วาไรตี้ วาไรตี้จี้เส้น ที่สตูดิโอมนตรี 1-2 ลาดพร้าว 101 ก็ให้สัมภาษณ์ว่า
“ตอนนี้รับงานเต็ม 100 แล้ว รับทุกอย่างอยู่ที่งานจะเข้ามาหรือเปล่า ตอนนี้ก็เริ่มมีเรื่อยๆ เรื่องที่ไม่ดีที่ผ่านมามันผ่านไปหมดแล้ว เคลียร์แล้วทุกอย่าง ทางผู้ใหญ่ก็เริ่มให้งานปกติแล้ว บางท่านก็อาจจะยังไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร แต่มันก็เป็นเรื่องปกติเพราะเราผิดมา 2 ครั้งแล้ว ทุกอย่างต้องใช้เวลา ก็ดูกันไปดีกว่า ก็ไม่ถึงกับพิสูจน์ตัวเอง เราก็ใช้ชีวิตปกติของเรา เพราะถ้าเราไม่กลับไปยุ่งกับมันเดี๋ยวเขาก็เห็นเอง
เราเองก็คิดว่าพอแล้วกับชีวิตที่จะต้องไปวุ่นวายกับสิ่งนั้น เราก็อายุเยอะแล้ว เอาเวลาที่เหลืออยู่มาทุ่มเทกับโอกาสดีๆ ที่คนอื่นมอบให้ดีกว่า การที่เราเป็นแบบนั้นแล้วคนยังให้โอกาสเรากลับมาทำงานวงการได้นี่ถือว่าโชคดีมากๆ ถามว่าจะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ที่ยังไม่ไว้ใจไหม คือเราเข้าไปกราบขอโทษแต่เราไม่ของาน เราไม่กล้าที่จะไปขอหรอกเพราะเราทำผิดขนาดนั้น ถ้าเขาไม่ให้งานก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาคิดว่างานไหนเหมาะกับเราเดี๋ยวเขาคงให้เอง
ช่วงแรกๆ เราก็นำชีวิตของเรามาเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่น ตอนนั้นก็ไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อพูดเรื่องนี้ให้เด็กๆ ฟัง ไปทุกจังหวัด ถ้าใครอยากให้ไปเราก็ยินดีนะ ก็เหมือนเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กได้รู้ว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ แต่ตัวอย่างไม่ดีนี้ก็สามารถกลับมาดีได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกลับตัว ที่ผ่านมาก็ถือเป็นบทเรียนที่หนักที่สุด เป็นการทำร้ายตัวเองด้วย
กับเพื่อนๆ ตลกที่เห็นเรามาร่วมงานด้วย พวกเขาก็ให้โอกาสเราดีมาก เราก็ดีใจที่ได้กลับมาเจอและได้ทำงานร่วมกัน ทุกคนให้กำลังใจเราก็มีความสุขกับงาน ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าไปคิด อย่าไปตอกย้ำตัวเอง ตัว “บูม ชญาภา” ลูกสาวเองก็ให้กำลังใจเราตลอด ไปไหนก็ไปด้วยกัน จากคนเครียดๆ ที่ไม่ค่อยคุยให้ใครฟัง ตอนนี้กลายเป็นคนคุยเก่ง มีอะไรก็คุยกับครอบครัว กับชูษีก็ยังคุยอยู่ คือความเป็นสามีภรรยาเราหมดไปแต่ความเป็นพ่อแม่เรายังมี
สภาพจิตใจตอนนี้ก็กลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว จริงๆ อาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะเราผ่านสิ่งไม่ดีที่สุดมาแล้ว พอเรามีโอกาสดีๆ แบบนี้เราก็น่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ดี ถามว่าจะดันน้องเข้าวงการไหม ตัวน้องบูมก็อยากเข้าวงการนะ เขาโตมาก็เห็นพ่อแม่ทำงานแบบนี้มาตลอด แต่ก็อยู่ที่ว่าเขามีโอกาสมากแค่ไหน เราเองก็มีให้คำแนะนำลูกบ้าง แต่ไม่ได้พาลุกไปฝากงานกับใครเพราะเราไม่กล้า ตัวเราเองก็ยังไม่ค่อยจะมีงาน แต่ตอนนี้ก็มีละครติดต่อมาอยู่เดี๋ยวก็คงได้เห็นกัน
เรื่องคนไม่ชอบก็คิดว่ามีอยู่แล้ว ต่อหน้าเขาไม่แสดงออก แต่มีคนรักและคนเกลียดเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวเวลาก็จะช่วยให้เชื่อกันเอง ดูกันไปเรื่อยๆ ดีกว่า อย่าไปเครียดหรือจ้องจับผิดอะไรเลยเนอะ”
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ