ทบ.แจงปมวิสามัญ นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่
กองทัพบก แจงการวิสามัญนักกิจกรรมการกลุ่มชาติพันธุ์ชาวลาหู่ ตร.ในพื้นที่ต้องทำสำนวนคดี ย้ำยึดกฎหมาย กองทัพพร้อมให้ความเป็นธรรม
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจง กรณีการวิสามัญ นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมการกลุ่มชาติพันธุ์ชาวลาหู่ เนื่องจากเป็นประเด็นในทางโซเชียลมีเดีย ที่ตั้งข้อสังเกตว่า หากนักนายชัยภูมิ ครอบครองระเบิดและจะปาใส่เจ้าหน้าที่ตามที่ฝ่ายรัฐชี้แจงจริง จะต้องมีการถอดสลักระเบิดและระเบิดทันทีที่ถูกวิสามัญ
โดยในรายละเอียดของการปฏิบัติโดยเฉพาะการใช้ดุลพินิจ ในช่วงเสี้ยววินาทีวิกฤติของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ จะถูกไปปรากฏอยู่ในสำนวนทางคดีของตำรวจเองว่า สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะกรณีที่มีการเสียชีวิต เนื่องจากเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจในพื้นที่จะต้องทำสำนวนคดี ซึ่งต้องมีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ
ขณะที่ กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่เสนอข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ เรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการวิสามัญฆาตกรรม เรียกร้องให้มีพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองแห่งท้องที่เป็นผู้ชันสูตรพลิกศพร่วมกับพนักงานสอบสวนและแพทย์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
อีกทั้งเรียกร้องให้รับรองความปลอดภัยของ นายพงศ์นัย แสงตะล้า ที่ถูกกักตัวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ทางกองทัพบกพร้อมให้ความกระจ่างและความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ และขณะนี้การดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ในกรอบขั้นตอนของกฎหมาย สำหรับที่ต้องการให้รับรองความปลอดภัยของ นายพงศ์นัย แสงตะล้า ที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ นั้น จากข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยืนยันจะให้การดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือในด้านข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรูปคดีอย่างมาก
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีการสังหาร นายชัยภูมิ ป่าแส โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามยุทธวิธีและป้องกันปราบอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้น ทราบว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องยิง นายชัยภูมิ นั้น เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดพบรถของ นายชัยภูมิ
จากนั้นได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า จำนวนกว่า 2 พันเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในฝากระโปรงรถ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ตายซึ่งนั่งมากับคนขับได้วิ่งหลบหนีลงจากรถ เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามวิ่งตามไปเพื่อขอจับกุมตัวได้หันมาพยายามขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงยิงเข้าไป 1 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
จึงเห็นว่าเรื่องนี้ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานไปตามอำนาจหน้าที่ อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลากลางวัน เจ้าหน้าที่แสดงตัวให้ตรวจค้นและจับกุมตามขั้นตอนแล้ว ถ้าคนไม่มีความผิดก็ไม่มีความจำเป็นต้องหลบหนีอยู่แล้ว ซึ่งตนมองว่าการที่เจ้าหน้าที่ไม่ทำการตรวจค้นและปล่อยให้มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปในพื้นที่นั้น จะยิ่งทำให้ประเทศชาติเสียหายยิ่งกว่า