สาวใหญ่จับโจรได้ ตร.อาสาทำหลุด อ้างสะเดาะกุญแจมือหนี

สาวใหญ่จับโจรได้ ตร.อาสาทำหลุด อ้างสะเดาะกุญแจมือหนี

สาวใหญ่จับโจรได้ ตร.อาสาทำหลุด อ้างสะเดาะกุญแจมือหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักธุรกิจสาวเป็นงง อุตส่าห์จับโจรได้ ตำรวจอาสาทำผู้ต้องหาลักทรัพย์หลุดหนีหาย อ้างสะเดาะกุญแจมือหลุดไป แล้วลงมือทำร้ายหัวแตก

(22 มี.ค.) นางศศิภรณ์ อายุ 40 ปี ได้ร้องต่อสื่อมวลชนเมืองพัทยาว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ร่วมกับนางศุภานันท์ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ควบคุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ไว้ได้แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง มารับตัว และทางตำรวจได้มอบหมายให้ตำรวจอาสา 2 นายคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งโรงพัก แต่ภายหลังปรากฏว่าทั้งคู่กลับอ้างว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ซ้ำยังถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวทะเลเดือด ตั้งอยู่ในซอยสำนักตะแบก พบ นางศศิภรณ์ ยืนรออยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวและกาแฟสดชั้นเดียว นางศศิภรณ์ พาไปชี้จุดที่คนร้ายงัดประตูเข้าไป แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ ก่อนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ร้านแห่งนี้ตนได้ปิดกิจการมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ทรัพย์สินและอุปกรณ์ทำมาหากินยังเก็บไว้ในร้าน

โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมารดน้ำต้นไม้ตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. วันเดียวกัน ตนย้อนกลับมาเอาของที่ร้านอีกครั้งและพบว่าประตูทางเข้าถูกคนร้ายงัดจนพังเสียหาย เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินปรากฏว่าเครื่องทำกาแฟพร้อมอุปกรณ์ทั้งชุด รวมถึงถังแก๊ส 3 ใบ และเคื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ได้หายไป

นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์เครื่องครัวหลายอย่างถูกคนร้ายยกออกมาวางไว้ที่บริเวณข้างร้าน ตนจึงวางแผนจอดรถซุ่มดูเหตุการณ์เพราะคิดว่าผู้ที่ก่อเหตุน่าจะย้อนกลับมาขนทรัพย์สินดังกล่าวไปอีกกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. มีผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คน ขับรถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดที่ข้างร้าน

จากนั้น 2 ใน 3 ทำทีไปเขย่าต้นละมุดเพื่อเก็บผลมากิน ส่วนอีกคนเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ข้างร้าน แต่ตอนนั้นตนยังไม่ทำอะไรและไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะยังไม่เห็นหลักฐานคาตา ซึ่งในเวลาต่อมาทั้ง 3 คนจึงขับรถ จยย.ออกไปจากร้าน

ต่อมาเวลา 20.00 น. วันเดียวกันนั้น มีชายไทย 1 คน อายุประมาณ 25-30 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มารอบแรก ได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดภายในบริเวณร้านอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง ตนเลยมั่นใจน่าจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินแน่ๆ จึงโทรศัพท์เรียกลูกน้องและนางศุภานัน ทิมเที่ยง ผญบ.หมู่ 8 ต.โป่ง ให้มาช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้

ก่อนที่จะประสานตำรวจ สภ.หนองปรือ ให้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทราบชื่อผู้ต้องสงสัยรายนี้คือนายปัญญา อายุ 27 ปี ซึ่งตอนแรกเจ้าตัวอ้างว่าขับรถเข้ามาเพื่อแวะปัสสาวะเท่านั้น แต่เมื่อตำรวจสอบเค้นอย่างหนักจึงยอมรับว่าได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน ขโมยทรัพย์สินในร้านไปจริง และสัญญาว่าจะพาไปตามเอาทรัพย์สินที่ขโมยไปมาคืน

นอกจากนี้ นายปัญญา ยังบอกว่าตนเองทำงานเป็นช่างไฟอยู่กับ นายจันทร์ อายุ 43 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างในเขต อ.บางละมุง ตนจึงขอเบอร์โทรศัพท์นายจ้างแล้วโทรไปสอบถามจนทราบว่านายปัญญา ออกจากงานไปนานแล้ว และยังเคยก่อเหตุขโมยเครื่องมือช่างของนายจันทร์ไปด้วย

นางศศิภรณ์ เล่าให้ฟังอีกว่า ในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ประจำตู้ยาม ต.โป่ง จึงมอบหมายให้ตำรวจอาสาคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ตู้ยามตำรวจสี่แยกมิตรกมล ซึ่งมีนายตำรวจระดับรองสารวัตรเข้าเวรอยู่ โดยทำการล็อคกุญแจมือติดกับกะบะหลังรถปิ๊กอัพ

โดยมีตำรวจอาสาอีก 1 คน ขับรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาตามหลังไป พร้อมกับแจ้งให้ตนขับรถยนต์ไปเจอกันที่ตู้ยาม หลังจากตนไปรออยู่นานนับชั่วโมง ตำรวจอาสาทั้ง 2 นาย ได้ขับรถปิ๊กอัพเดินทางมาที่ตู้ยามตำรวจแยกมิตรกมล และพบว่าหนึ่งในนั้นมีแผลแตกที่ศีรษะจนเลือดอาบ

ทั้งคู่จะแจ้งว่าระหว่างทางคนร้ายได้สะเดาะกุญแจมือแล้วทำร้ายร่างกายตำรวจอาสา ก่อนชิงเอารถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุขับหลบหนีไป ทำให้ตนเกิดความสงสัยว่าคนร้ายหนีไปได้อย่างไรทั้งๆ ที่สวมกุญแจมือติดกับรถปิ๊กอัพ จึงสอบถามข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาของตำรวจอาสาทั้ง 2 คน และได้รับคำตอบว่าจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ ก่อนที่จะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวให้ทราบเรื่องเพื่อให้ค้นหาความจริงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีเงื่อนงำอะไรหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่นางศศิภรณ์ กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น นายจันทร์ ทองคำ ผู้รับหมาก่อสร้างที่เคยถูกนายปัญญาก่อเหตุลักทรัพย์ โทรศัพท์มาบอกกับนางศศิภรณ์ ว่าได้เบาะแสของคนร้ายรายนี้ หลังจากมีผู้ไปพบเห็นว่าเจ้าตัวเช่าห้องพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยมาบตาโต้ 2 เขตเทศบาล ต.หนองปรือ นางศศิภรณ์ จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ทราบ แต่ล่าสุดยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook