แม่น้องจูนเผย ไม่เคยรับเงิน 1ล้าน จากพ่อแม่ทหารยศร้อยตรีอดีตสามีที่ทำร้ายบุตรสาว
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการ บ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ในฐานะทนายความ พร้อมด้วย ครอบครัวของ น.ส.สุกฤตา หรือ น้องจูน พนักงานราชการประจำค่ายธนะรัชต์ ที่ถูกอดีตแฟนหนุ่มนายทหารยศร้อยตรี อายุ 24 ปี ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 3 เดือน เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เพื่อให้รายละเอียดคดีและนำหลักฐานหลักฐานมามอบให้เพิ่มเติม
ด้าน นางสุนทรี มารดาของน้องจูน กล่าวว่า ติดใจในประเด็นสถานที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นที่เปลี่ยวห่างจากปากซอยถึง 20 กิโลเมตร จึงไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ทำร้ายน้องจูนเพียงคนเดียว อาจจะมีคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือผู้ต้องหาหลังก่อเหตุ รวมถึงสงสัยในประเด็นอาวุธปืนของอดีตสามีน้องจูน ที่ตำรวจได้ยึดไว้เป็นของกลางว่าทำไมตำรวจเพิ่งเอามาให้ตรวจสอบ เพราะระยะเวลาผ่านมา 2-3 เดือนแล้ว อีกทั้งในประเด็นที่ พ่อ และ แม่ของหมวดแบงค์ ติดต่อเข้ามาเสนอเงินให้ 1 ล้านบาท ตนยืนยันว่าไม่ได้รับเงินไว้ และไม่ได้มีการเซ็นเอกสารแต่อย่างใด ส่วนโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน และ กุญแจรถ ของน้องจูนที่หายในวันเกิดเหตุ ขณะนี้ก็ยังไม่พบ
ด้าน พล.ต.ต.สมเกียรติ แสงสินศร รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ในส่วนหมวดแบงค์ที่ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ตำรวจจะรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าไม่กระทบกับสำนวนคดีแน่นอน สำหรับกรณีศาลพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหมวดแบงค์นั้น ตำรวจมีการคุ้มครองพยานอยู่แล้ว แต่หากพบว่ามีการข่มขู่ ตำรวจก็จะทำเรื่องขอให้ศาลทหารถอดประกันทันที ทั้งนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของน้องจูน และตรวจสอบลายนิ้วมือบนอาวุธปืนที่ใช้ทำร้าย เพื่อประกอบสำนวนคดีและหาความเชื่อมโยงว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง โดยจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสักระยะหนึ่ง จึงจะสามารถเปิดเผยได้