ชีวิตรันทด รปภ.สนามมวยเหยื่อกระสุน เมียลูก-แม่ตาบอดต้องเคว้ง

ชีวิตรันทด รปภ.สนามมวยเหยื่อกระสุน เมียลูก-แม่ตาบอดต้องเคว้ง

ชีวิตรันทด รปภ.สนามมวยเหยื่อกระสุน เมียลูก-แม่ตาบอดต้องเคว้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผาแล้วศพ รปภ.หนุ่มเหยื่อกระสุนสนามมวยลุมพินี ญาติยังเศร้าโศก พบครอบครัวค่อนข้างลำบาก เสาหลักอีกต้นล้มไป แม่ตาบอด-เมียลูกยังแบเบาะ

(27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเกิดของ นายอนุชา อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสนามมวยลุมพินี ซึ่งถูกมือปืนยิงเสียชีวิต จากเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่พยายามเข้าระงับเหตุทำร้ายร่างกายประธานกรรมการฝ่ายเทคนิค สนามมวยเวทีลุมพินี กลายเป็นข่าวโด่งดัง

จากการตรวจสอบพบว่า ศพของนายอนุชา ญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อเวลา 15.00 น. เมื่อวานนี้ ที่วัดบ้านหนองแหน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีญาติพี่น้องประกอบไปด้วย นางสำรอง ผู้เป็นแม่ นางสาวพรนิภา พี่สาว และ นางสาววราณี ภรรยา พร้อมลูกสาววัย 4 เดือน และญาติๆ ร่วมงาน พร้อมช่วยกันเก็บข้าวของด้วยความโศกเศร้าอาลัย

พี่สาวของนายอนุชา เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พ่อเสียชีวิต เมื่อประมาณปี พ.ศ.2555 ตนเองก็ย้ายไปอยู่กับสามีที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และได้รับแม่ไปอยู่ด้วย เนื่องจากที่บ้านไม่มีใครดูแล เพราะแม่พิการหูตึง และตามองไม่เห็น

ส่วนน้องชายได้เข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์อยู่ 2 ปี หลังจากปลดประจำการได้งานทำที่กรุงเทพฯ เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสนามมวยลุมพินี ซึ่งทำงานงานเกือบ 1 ปี มีภรรยา และลูก 4 ขวบ ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว

นายอนุชา เป็นคนดี เข้ากับคนอื่นง่าย ขยันทำมาหากิน ซึ่งทุกๆ เดือน นายอนุชา จะส่งเงินมาให้กับภรรยา เพื่อเป็นค่านมลูก และใช้จ่ายภายในบ้าน พร้อมทั้งส่งไปเป็นค่ายารักษาแม่ที่อยู่กับพี่สาว โดยหวังว่าสักวันหากเก็บเงินได้สักก้อนก็จะลาออกจาก รปภ. กลับมาประกอบอาชีพที่บ้าน แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตเสียก่อน

ซึ่งทางญาติๆ อยากให้กับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเหตุดังกล่าวถือว่าอุกอาจมาก อีกทั้ง นายอนุชา ก็เหมือนพลเมืองดีที่ช่วยเข้าระงับเหตุ แต่ก็ต้องถูกยิงเสียชีวิต คนร้ายยังคงลอยนวล กลัวคดีไม่คืบเพราะบางกระแสข่าวอาจมีผู้มีอิทธิพลเอี่ยว อยากให้ตำรวจจับคนร้ายมาชดใช้กรรมโดยเร็ว เพื่อให้นายอนุชาได้นอนตายตาหลับ

สำหรับความช่วยเหลือนั้น ทางบริษัท รปภ.ต้นสังกัด ได้ให้เงินค่าดำเนินการเคลื่อนศพมาจำนวน 20,000 บาท ส่วนทางสนามมวยให้เงินมา 30,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวได้จ่ายค่าจัดงานศพไปแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้ต่อไปยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับคนร้ายมาลงโทษได้เร็วที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook