หวิดป่วน! สุรพงษ์ ขอนับองค์ประชุม หลังสนช.หายหลายคน

หวิดป่วน! สุรพงษ์ ขอนับองค์ประชุม หลังสนช.หายหลายคน

หวิดป่วน! สุรพงษ์ ขอนับองค์ประชุม หลังสนช.หายหลายคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

29 มี.ค.60 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธาน พิจารณาวาระการแถลงปิดคดีถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการพิจารณานั้น เมื่อป.ป.ช.แถลงปิดคดีเสร็จสิ้น นายสุรพงษ์ ได้ขอให้ตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อสนช.จะต้องลงมติ โดยระบุว่า มาตรา 13 รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ที่ระบุว่า การประชุมต้องมีสมาชิกมีไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แต่สมาชิกสนช.เข้ามาฟังราว 50 คน จึงอยากให้นับองค์ประชุม

ต่อมานายสุรชัยได้กดสัญญาณนับองค์ประชุมเพื่อจะลงมติ ทำให้สนช.หลายคน ลุกขึ้นอภิปรายทักท้วงคัดค้านการทำหน้าที่ของนายสุรชัยที่ปล่อยให้บุคคลภายนอกขอมติให้นับองค์ประชุม และยังพูดจากล่าวร้ายเสียดสีเเละอ้างว่าสนช.บางส่วนไปประชุมกมธ.   ทำให้นายสุรชัย ต้องเชิญ ป.ป.ช. และนายสุรพงษ์ ออกจากห้องประชุม เพื่อหารือข้อประท้วงของสนช.กว่า 1 ชั่วโมง  ในที่สุดนายสุรชัยยืนยันที่จะให้ลงมติ โดยให้เหตุผลว่านายสุรพงษ์ ได้อ้างถึงมาตรา 13 รัฐธรรมนูญชั่วคราว และถ้าจะใช้มาตรา 5 วรรคสองของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ว่าด้วยการให้สนช.วินิจฉัยไปตามประเพณีการปกครอง หรือจะให้ประธานสนช.วินิจฉัยชี้ขาดเอง ก็ไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ จึงขอสร้างบรรทัดฐานใหม่ในเรื่องนี้เพื่อให้สภาใช้ต่อไป

ที่ประชุมได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 149 เสียง ไม่ให้บุคคลภายนอกเสนอให้มีการนับองค์ประชุม จากนั้นนายสุรชัยเชิญคู่กรณีกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยให้นายสุรพงษ์ แถลงปิดคดีต่อและปิดประชุมเวลา 16.35 น. ก่อนที่จะนัดลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนนายสุรพงษ์ ในวันที่ 30 มี.ค.เวลา 10.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงการเเถลงปิดคดีนั้น   น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. แถลงปิดสำนวนคดี ยืนยันว่า การออกหนังสือเดินทางให้บุคคล จะต้องยึดระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบว่าบุคคลเหล่านั้นอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีหรือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ ซึ่งกรณีของนายทักษิณนั้นชัดเจนว่าอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีหลายคดีตั้งแต่ ปี 2551 ดังนั้นการที่นายสุรพงษ์ มีคำสั่งออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ภายในวันเดียว แสดงให้เห็นว่าเป็นการเร่งรัดดำเนินการ โดยไม่ทำตามระเบียบของกระทรวง 

ด้าน นายสุรพงษ์ ยืนยันว่า บันทึกแจ้งข้อกล่าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นเอกสารเท็จ เพราะกรรมการที่ร่วมแจ้งข้อกล่าวหามีจำนวน 6 คน แต่ในบันทึกกลับมีกรรมการร่วมลงชื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 คน พร้อมย้ำว่านายทักษิณ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ จึงได้ตัดสินใจคืนหนังสือเดินทางให้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook