คมนาคม ยัน! ไม่รับข้อเสนอคนขับรถตู้ เตรียมแผนรองรับหลังขู่หยุดเดินรถ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีที่สมาคมรถตู้ต่างจังหวัดได้ยื่นข้อเรียกร้อง 5 ข้อประกอบด้วย 1.ไม่ต้องการถูกยึดใบขับขี่สาธารณะ 2. ขอความเร็วเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 3.ไม่ขอเข้าจุดจอดพื้นที่สถานีขนส่ง 4.ขอออกจากพื้นที่ขนส่งชั่วคราว 5.ไม่ขอปรับเปลี่ยนรถตู้สาธารณะเป็นรถโดยสารขนาดเล็ก เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดได้เคยหารือกับผู้ประกอบการก่อนหน้าแล้วและยืนยันว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนของคสช. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสารและจะหารือกับผู้ประกอบการอีกครั้งก่อนเทศกาลสงกรานต์ ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบขู่จะหยุดเดินรถประมาณ 10,000 คัน ทางกระทรวงคมนาคมก็ได้มีแผนสำรองในการเตรียมรถเสริมไว้แล้ว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า เกณฑ์มาตรฐานของรถตู้โดยสารที่จะใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะต้องติดตั้งจีพีเอส มีสมุดประจำตัวผู้ขับ รัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งและมีเครื่องสแกนบัตรผู้ขับ รวมถึงต้องมีการปรับเบาะที่นั่งให้เหลือ 13 ที่นั่ง ส่วนรถกระบะหากบรรทุกคนในพื้นที่กระบะหลังถือว่าทำผิดต้องถูกปรับตามขั้นตอนของกฎหมาย
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ส่วนเรื่องร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ที่เคยเสนอครม.ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ได้มีการนำกลับมาทบทวนอีกครั้ง เนื่องจากต้องกำกับดูแลมาตรฐานของโรงเรียนสอนขับรถยนต์ ระยะเวลาการอบรม และค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เพื่อให้ไม่กระทบต่อ ประชาชนและโรงเรียนสอนขับรถ
ด้านตัวแทนผู้ประกอบการ รถตู้โดยสารปรับอากาศสาธารณะร่วมบริการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขสมก. หรือรถตู้ที่ให้บริการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาคำสั่งการจัดระเบียบรถตู้ร่วมบริการ ขสมก. กรุงเทพมหานคร โดยผ่อนผันระเบียบการเดินรถให้สิ้นสุดตามระยะเวลาคู่สัญญากับ ขสมก.
นายชาตรี เปรมสวัสดิ์ ตัวแทนผู้ประกอบการรถตู้ร่วมบริการ ขมสก. บอกว่า อยากให้พิจารณายกเลิกการปรับลดที่นั่งจาก 13 ที่นั่ง เป็น 15 ที่นั่งตามเดิม เนื่องจากรถตู้ร่วมบริการ ขสมก. มีการจดทะเบียนในหมวดที่ 1 ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกและขสมก.เป็นรถจำนวน 15 ที่นั่งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการปรับลดจำนวนที่นั่ง จะเพิ่มภาระด้านค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการโดยไม่จำเป็น
ส่วนเรื่องการติดตั้งจีพีเอสทางกลุ่มก็อยากขอผ่อนผันไปก่อนเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า รถตู้ที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด ไม่สามารถใช้ความเร็วได้ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องติดตั้งจีพีเอสเพื่อจำกัดความเร็ว
ส่วนเรื่องที่สำคัญที่สุด คือเรื่องการย้ายสายหรือเส้นทางการวิ่งของรถตู้ อยากจะขอผ่อนผันยืดระยะเวลาสำหรับคนที่ยื่นเรื่องตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกและขสมก. แต่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทำให้ย้ายสายไม่ทันกำหนด ออกไปจนกว่าการย้ายสายจะเป็นผล เพื่อความเป็นระเบียบและรถตู้จะได้วิ่งถูกสาย
ขณะที่การคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสาร เพราะมีการติดประกาศไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งรถตู้สายกรุงเทพฯปริมณฑล เป็นเส้นทางวิ่งระยะสั้นคล้ายรถเมล์ ดังนั้นจะมีผู้โดยสารขึ้นลงเป็นระยะ ซึ่งคนขับไม่สามารถสั่งผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยได้ทุกครั้ง